ผู้ชมทั้งหมด 11,837
“สุริยะ” เร่ง สนข.ผลักดันกฎหมายตั๋วร่วม คุมค่าโดยสารเป็นธรรมให้ประชาชน ยืนยันคลอดในรัฐบาลชุดนี้แน่นอน พร้อมสั่งให้สรุปโครงการแลนด์บริดจ์ เตรียมชง ครม.อนุมัติในอีก 2 สัปดาห์ ก่อนเดินสายชวนลงทุนโรดโชว์ในต่างประเทศต้นปี 67
เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ที่สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในวันคล้ายวันสถาปนา สนข. ครบรอบ 21 ปี พร้อมมอบนโยบายในการปฎิบัติงานให้คณะผู้และเจ้า หน้าที่ สนข. ว่า กระทรวงคมนาคมเป็นหนึ่งในกลไกที่จะช่วยขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมทั้งทางถนน ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ รายได้ของประเทศไทยส่วนหนึ่งขึ้นกับการส่งออกสินค้าไปขายต่างประเทศ เพื่อให้สินค้าของไทยมีราคาที่สามารถแข่งขันกับสินค้าจากประเทศอื่น ๆ ได้
กระทรวงคมนาคมจำเป็นต้องหาแนวทางที่จะลดต้นทุนภาคการขนส่งของประเทศลง ดังนั้น สนข. ต้องทำการวิเคราะห์และนำเสนอแผนงานโครงการด้านคมนาคมที่สามารถช่วยลดต้นทุนการขนส่ง เหมือนกับประเทศที่เจริญแล้ว อาทิญี่ปุ่น และเกาหลี รวมถึงจัดทำแผนงานที่จัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกในการขนส่งทางรถไฟให้ครบถ้วน โดยต้องมีสถานีเปลี่ยนถ่ายตู้สินค้าจากรถบรรทุกสู่รถไฟให้เพียงพอ พร้อมจัดให้มีเครื่องมือสำหรับการขนถ่ายตู้สินค้าที่มีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้การเดินทางของประชาชนก็มีความสำคัญ หากประเทศไทยมีระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่ไม่แพง คนไทยก็จะหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มมากขึ้น และลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวลงทำให้ประเทศชาติประหยัดการใช้พลังงาน ลดการนำเข้าน้ำมัน ช่วยลดค่าใช้จ่ายของประเทศ ยังจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และลดปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่ก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพในปัจจุบัน ทั้งนี้ สนข. ต้องเร่งรัดแผนงานจัดให้มีระบบขนส่งรอง หรือ Feeder ที่จะให้ประชาชนเดินทางออกจากบ้านมาใช้รถไฟฟ้าได้สะดวก ไม่ใช่ต้องนั่งรถมอเตอร์ไซต์รับจ้างตากแดดตากฝนเพื่อมาขึ้นรถไฟฟ้า
นายสุริยะ กล่าวอีกว่า ในส่วนของราคาค่าโดยสารระบบขนส่งสาธารณะต้องไม่แพง ดังนั้น สนข. ต้องเร่งขับเคลื่อนเรื่อง พ.ร.บ. การบริหารจัดการตั๋วร่วม พ.ศ….. และนำเสนอกระทรวงคมนาคม เพื่อเสนอให้ที่ประชุม ครม. เห็นชอบและ นำเสนอสภาผู้แทนราษฏร พิจารณาตามลำดับ ทั้งนี้มั่นใจว่า พ.ร.บ. ดังกล่าว จะมีผลบังคับใช้ภายในรัฐบาลชุดนี้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามหากมี พ.ร.บแล้วการจะขับเคลื่อนให้ผู้ประกอบการเดินรถไฟฟ้าแต่ละรายหันมาใช้บัตรโดยสารรูปแบบเดียวกันก็ทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะทำให้เรามีข้อมูลการเดินทางของประชาชนอย่างเพียงพอ ที่จะนำมาทำการวิเคราะห์หาราคาค่าโดยสารที่เป็นธรรมต่อประชาชนผู้เดินทาง และเป็นธรรมต่อผู้ประกอบการเดินรถที่ต้องเสียเงินลงทุนไป และการใช้บัตรเพียงใบเดียวในการเดินทางผ่านรถไฟฟ้าหลายสาย การจะคิดค่าแรกเข้าเพียงครั้งเดียวก็สามารถดำเนินการได้ ทำให้ประชาชนไม่ต้องเสียค่าแรกเข้าหลายครั้ง ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชนลงได้
นายสุริยะ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันประเทศไทยพึ่งพารายได้จากภาคเกษตรกรรม และการท่องเที่ยว หากประเทศไทยสามารถพัฒนาโครงการสะพานเศรษฐกิจภาคใต้เชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย -อันดามัน เชื่อมชุมพร-ระนอง หรือแลนด์บริดจ์ สำเร็จ จะพลิกโฉมประเทศไทยให้กลายมาเป็นประเทศที่มีความสำคัญด้านการขนส่งสินค้าของภูมิภาค และของโลก ซึ่งโครงการแลนด์บริดจ์นี้รัฐบาลและกระทรวงคมนาคมได้ยืนยันต่อประชาชนว่าจะขับเคลื่อนต่อ ดังนั้นขอให้สนข. เร่งรัดการศึกษาอย่างรัดกุม รอบคอบ และทำตามกรอบที่กฎหมายกำหนด และที่สำคัญต้องทำการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เพื่อทำการพัฒนาโครงการให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ จากนั้นให้ส่งเรื่องมายังกระทรวงคมนาคม ก่อนนำเสนอที่ประชุม ครม. ในอีก 2 สัปดาห์ เพื่อขออนุมัติในหลักการ คาดว่าจะสามารถเริ่มขั้นตอนการลงทุน และเดินสายประชาสัมพันธ์โครงการ (Road Show )ในต่างประเทศ ทั้งประเทศในแถบตะวันออกกลาง และยุโรป ได้ในช่วงต้นปี 67
นายสุริยะ กล่าวว่า ในวันที่ 11 ต.ค.นี้ ตนจะไปมอบนโยบายให้กรมทางหลวง และในวันที่ 12 ต.ค.66 ตนจะลงพื้นที่ไปตรวจติดตามโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 6 สายบางปะอิน – นครราชสีมาตั้งแต่ช่วงปากช่องถึงถนนเลี่ยงเมืองนครราชสีมา (ทล.204) เพื่อเตรียมความพร้อมการเปิดให้บริการประชาชนแบบถาวรตั้งแต่ช่วงเทศกาลปีใหม่ 67 เป็นต้นไป