ผู้ชมทั้งหมด 381
“สุริยะ” เผย “อิตาลี” สนใจร่วมลงทุน “แลนด์บริดจ์ – โครงสร้างพื้นฐาน” ของไทย ลุยถ่ายทอดองค์ความรู้ประยุกต์ใช้ในไทย หนุนท่องเที่ยว
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัท Fincantieri ซึ่งเป็นบริษัทต่อเรือขนาดใหญ่ของอิตาลีพบว่า มีความสนใจทึ่จะเข้าร่วมลงทุนโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมทะเลอ่าวไทย – อันดามัน (ชุมพร – ระนอง) หรือ “โครงการแลนด์บริดจ์” และโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง โดยระบุว่า บริษัทฯ สามารถให้บริการซ่อมบำรุงเรือขนส่งสินค้า รวมถึงโครงการก่อสร้างท่าเรืออื่น ๆ ของกระทรวงคมนาคม
ขณะเดียวกันกรรมการบริหารการตลาดบริษัท Webuild ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านการก่อสร้างและออกแบบวิศวกรรมโยธามีประสบการณ์ด้านการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ อาทิ การสร้างเขื่อน ท่าเรือ ถนน ทางรถไฟ ท่าอากาศยาน ปัจจุบันดำเนินธุรกิจใน 50 ประเทศทั่วโลกนั้น ได้นำเสนอเทคโนโลยีการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ และแสดงความสนใจที่จะร่วมลงทุนในโครงการแลนด์บริดจ์ด้วย
นอกจากนี้ Mr. Paolo Barletta กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท Arsenale ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินการเพิ่มความหรูหรา (Luxury) ให้กับภาคบริการต่าง ๆ ได้เสนอความประสงค์ที่จะเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพื่อปรับปรุงขบวนรถไฟสำหรับการให้บริการในระดับ Luxury ส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นการสร้างประโยชน์ในการให้บริการที่หลากหลายแก่ประชาชน รวมถึงเป็นการสร้างรายได้ให้กับ รฟท. ในระยะยาวและเป็นการสนับสนุนนโยบายในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล
ทั้งนี้ ในปัจจุบันบริษัท Arsenale ได้ร่วมมือกับการรถไฟอิตาลี (Ferrovie dello Stato Italiane หรือ FS) ในการจัดทำตู้ขบวนรถไฟท่องเที่ยวแบบ Luxury ให้บริการในเส้นทางมิลาน – กรุงโรม – มิลาน ใช้เวลาเดินทาง 3 วัน 2 คืนบนรถไฟ มีการจอดแวะตามสถานที่ต่าง ๆ และชมทิวทัศน์ 2 ข้างทางที่สวยงาม ซึ่งมีกำหนดเปิดให้บริการในเดือนพฤศจิกายน 2567 โดยเชื่อว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีรายได้สูงที่ต้องการการท่องเที่ยวแบบหรูหราและแปลกใหม่ได้เป็นอย่างดี
นายสุริยะ กล่าวอีกว่า ตนยังได้หารือร่วมกับ Mr. Michele Straniero รองประธานด้านการพัฒนาธุรกิจระหว่างประเทศ บริษัท Blue Engineering & Design ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการด้านการออกแบบวิศวกรรมทั้งยานยนต์ รถไฟ และเครื่องบิน มุ่งเน้นประสิทธิภาพการใช้งานและการประหยัดพลังงาน รวมทั้งได้ทำงานออกแบบรถยนต์ไฟฟ้าให้กับประเทศจีนในหลายบริษัท โดยหวังนำความรู้ด้านวิศวกรรมมาพัฒนาในระยะต่อไป
นอกจากนี้ ยังได้เจรจากับผู้แทนบริษัท nplus โดยได้นำเสนอเทคโนโลยีตรวจสอบคุณภาพของโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน สะพาน เป็นต้น เพื่อเป็นการบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐาน เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้บริการ ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังมีระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับ และซอฟต์แวร์ที่สามารถทำการวิเคราะห์ข้อมูล การแจ้งเตือน และรายงานผลสภาพความแข็งแรงของโครงสร้างฯ ได้อย่างแม่นยำ อย่างไรก็ตาม บริษัท nplus ได้แจ้งความประสงค์ว่า มีความสนใจที่จะเข้าลงทุนในประเทศไทยอย่างมากและพร้อมที่จะเสนอให้มีการถ่ายทอดองค์ความรู้กับหน่วยงานของรัฐ