ผู้ชมทั้งหมด 382
“สุริยะ” นำทีมคมนาคมลงพื้นที่ติดตามการให้บริการและแผนพัฒนาสนามบินนานาชาติสมุย จ่อเพิ่มเที่ยวบินเป็น 73 เที่ยวบินต่อวัน ส่วนผู้โดยสารครึ่งปีแรกโต 22%
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นางมนพร เจริญศรีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ติดตามการให้บริการและแผนพัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติสมุยจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อรองรับการให้บริการผู้โดยสารและนักท่องเที่ยว โดยมี คุณพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถกรรมการผู้อํานวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
นายสุริยะ กล่าวว่า เกาะสมุย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติทั่วโลกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการเดินทางทางอากาศผ่านท่าอากาศยานนานาชาติสมุย เนื่องจากมีความสะดวก รวดเร็วและปลอดภัย จากข้อมูลสถิติการเดินทางเข้า – ออกท่าอากาศยานนานาชาติสมุยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 มีจำนวนผู้โดยสารสูงถึง 1,406,226 คน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 คิดเป็น 22% โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังช่วงการแพร่ระบาดของโควิด -19
สำหรับท่าอากาศยานนานาชาติสมุย ดำเนินการโดย บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุดวันละประมาณ 16,000 คน/วัน หรือ 6,000,000 คน/ปี ปัจจุบันให้บริการรองรับ 11 เส้นทางบิน ทั้งภายในและระหว่างประเทศ โดยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส สายการบิน SCOOT สายการบินTIBET AIRLANES สายการบิน WEST AIR และสายการบิน CHENGDU AIRLANE ท่าอากาศยานนานาชาติสมุยมีแผนพัฒนาท่าอากาศยาน เพื่อเพิ่มศักยภาพรองรับนักท่องเที่ยว ได้แก่ แผนเพิ่มเที่ยวบินเข้า – ออกท่าอากาศยาน จาก 50 เที่ยวบิน เป็น 73 เที่ยวบิน โดยปัจจุบันได้ผ่านการเห็นชอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
นอกจากนี้ยังมีแผนการปรับปรุงในส่วนพื้นที่อาคารและสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ เพิ่มจำนวน Boarding Gate เพิ่มจำนวนสายพานรับสัมภาระเป็น 4 สายพาน เพิ่มพื้นที่เชิงพาณิชย์เป็น 4,000 ตารางเมตร เพิ่มจำนวนเคาน์เตอร์ เช็กอินอีก 10 เคาน์เตอร์ พร้อมติดตั้งระบบการให้บริการด้วยตนเองอัตโนมัติ (Common Use Self Service: CUSS) ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารและการให้บริการ ระยะเวลา 1 – 3 ปี
นายสุริยะ กล่าวอีกว่า การลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมในครั้งนี้ เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายผลักดันเรื่องการท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพรองรับการให้บริการผู้โดยสารและนักท่องเที่ยว เชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับเอกชน จึงมีการหารือและจะเริ่มดำเนินการต่อไป