ผู้ชมทั้งหมด 308
“สุริยะ” สั่งทุกหน่วยงานในสังกัดคมนาคม รับมือวันลอยกระทง เตรียมพร้อมทุกระบบขนส่งสาธารณะ อำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชน-นักท่องเที่ยว เน้นเข้มงวดความปลอดภัยระดับสูงสุด
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลลอยกระทง ประจำปี 2566 ซึ่งตรงกับวันจันทร์ที่ 27 พ.ย.นี้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทศกาลสำคัญในการร่วมอนุรักษ์สืบสานประเพณีวัฒนธรรมของไทย ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และสนับสนุนการท่องเที่ยวด้วยนั้น คาดว่า จะมีประชาชน และนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ เดินทางไปร่วมงานลอยกระทงในสถานที่จัดงานต่างๆ ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเป็นจำนวนมาก ดังนั้น ตนจึงได้สั่งการและกำชับให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ทั้งส่วนราชการ และรัฐวิสาหกิจ เตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกในการเดินทาง ทั้งทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ รวมถึงเข้มงวดด้านความปลอดภัยในระดับสูงสุด
โดยได้มอบหมายให้กรมเจ้าท่า (จท.) ในฐานะหน่วยงานหลักด้านการขนส่งทางน้ำ ตรวจตรา ควบคุม และดูแลการเดินเรือ และการสัญจรทางน้ำให้มีความปลอดภัย โดยให้ดำเนินการตรวจสอบความปลอดภัยของเรือ ท่าเรือทั่วประเทศ และอุปกรณ์ช่วยชีวิตอย่างเข้มงวด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และนักท่องเที่ยว รวมทั้งเพื่อป้องกันเหตุอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ ขณะเดียวกัน ให้จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกบริเวณท่าเทียบเรือ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่พร้อมเรือตรวจการณ์ ออกปฏิบัติงานรักษาความปลอดภัยและควบคุมการจราจรทางน้ำ และขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ประจำท่าเทียบเรือโดยเคร่งครัด
นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้หน่วยงานด้านทางอากาศ เข้มงวด และตรวจตรา เรื่องการปล่อยโคมลอยอย่างเคร่งครัด โดยกำชับให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.), กรมท่าอากาศยาน (ทย.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. และบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ประสานความร่วมมือและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนงดหรือหลีกเลี่ยงการปล่อยโคมลอย โคมควัน ดอกไม้ไฟ แสงเลเซอร์ อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) หรือวัตถุอื่นใดที่อาจเป็นอันตรายต่ออากาศยาน ผู้โดยสารและประชาชนในเขตโดยรอบท่าอากาศยานทุกแห่ง
อย่างไรก็ตามได้ให้ บวท. บริหารจัดการการเดินอากาศในช่วงเทศกาลลอยกระทง กำหนดพื้นที่ที่ต้องระวังเป็นพิเศษ การกำหนดพื้นที่ปลอดภัย คือ บริเวณแนวขึ้น–ลงของเครื่องบิน และบริเวณโดยรอบสนามบิน และการกำหนดช่วงเวลาให้เครื่องบินหลีกเลี่ยงทำการบินในช่วงเวลาที่มีกิจกรรม อีกทั้ง จัดเตรียมบุคลากรให้เพียงพอในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อปฏิบัติงานควบคุมจราจรทางอากาศให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้ บวท. ขอความร่วมมือประชาชน หากต้องการจัดกิจกรรม ขอให้ดำเนินการตามขั้นตอน โดยติดต่อประสานงานกับหน่วยงานในท้องถิ่นล่วงหน้าตามประกาศจังหวัด และประสานไปหน่วยงานผู้รับผิดชอบเพื่อออกข่าวประกาศนักบินให้ทราบทั่วกัน
นายสุริยะ กล่าวว่า ขณะเดียวกันได้สั่งการให้หน่วยงานที่ให้บริการด้านการขนส่งสาธารณะ จัดเตรียมยานพาหนะ ทั้งรถโดยสารประจำทาง รถไฟ รถไฟฟ้า เครื่องบิน และเรือโดยสารให้เพียงพอ เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยว รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่ดูแลอำนวยความสะดวกปลอดภัยตลอดการเดินทาง พร้อมทั้งบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยในส่วนของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้จัดจัดเจ้าหน้าที่ช่วยดูแลรักษาความปลอดภัย ตรวจความเรียบร้อยบนขบวนรถและสถานีรถไฟ อีกทั้ง จัดรถพ่วงตู้โดยสารในขบวนรถเต็มหน่วยลากจูง ในช่วงระหว่างวันที่ 24-28 พ.ย.66 ซึ่งจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้น 10,000 คนต่อวัน
ขณะที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดรถโดยสาร 2,843 คัน รวม 17,844 เที่ยว พร้อมขยายเวลาเดินรถในเส้นทางที่วิ่งผ่านสถานที่จัดงานลอยกระทง จนถึงเวลา 02.00 น. และจัดเจ้าหน้าที่สายตรวจพิเศษประจำจุด ณ ป้ายหยุดรถโดยสารบริเวณสถานที่จัดงานลอยกระทงที่สำคัญๆ เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร และดูแลความปลอดภัยในการขึ้น-ลง รถ สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่จะเดินทาง
ส่วนกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ได้เชิญชวนประชาชนร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง และส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยจัดไฟประดับสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้แก่ สะพานภูมิพล 1 สะพานภูมิพล 2 กรุงเทพฯ จังหวัดสมุทรปราการ และสะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ จังหวัดนนทบุรี และให้เห็นความงดงามของบรรยากาศบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่ง ทช. ได้จัดเจ้าหน้าที่ตรวจตรา เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่เดินทางมาลอยกระทงบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่อยู่ในความดูแลของ ทช. สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือแจ้งเหตุได้ที่สายด่วน ทช. 1146
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมขอให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวเพื่อร่วมสืบสานประเพณีวัฒนธรรมด้วยความระมัดระวัง และมีความปลอดภัย โดยกระทรวงคมนาคม พร้อมที่จะอำนวยความสะดวก และดูแลประชาชนในทุกมิติ ตามนโยบาย “คมนาคม เพื่อความอุดมสุขของประชาชน”