“สุรพงษ์” สั่งการบ้าน รฟท.ลดรายจ่ายหารายได้เพิ่ม ปิดบัญชีปี 67 ต้องไม่ติดลบตัวแดง 

ผู้ชมทั้งหมด 12,694 

สุรพงษ์” สั่งการบ้าน รฟท.ลดรายจ่ายหารายได้เพิ่ม ปิดบัญชีปี 67 ต้องไม่ติดลบตัวแดง ปรับแผนดันทางคู่สายใต้หาดใหญ่-ปาดังเปซาร์ เข้าครม.เดือยพ.ย.นี้ ส่วนต่อขยายสายสีแดง 3 เส้นทาง ชงครม.ไฟเขียวภายในสิ้นปีนี้

เมื่อวันที่ 11 ต.ค.นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการมอบนโยบายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)ว่า จากการติดตามผลประกอบการของรฟท.ที่ผ่านมา พบว่า บัญชีติดลบเป็นตัวแดงมีหนี้สะสมมากกว่า 200,000 ล้านบาท จึงสั่งการให้ รฟท.ไปวิเคราะห์หาแนวทางลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ให้มากขึ้น ซึ่งรฟท. มีจุดแข็งคือเป็นธุรกิจไม่มีคู่แข่ง แต่ก็ถือเป็นจุดอ่อนด้วยเพราะทำให้เกิดการพัฒนาที่ล่าช้า ดังนั้นต้องไปพิจารณาทำการตลาดเชิญชวนรัฐวิสาหกิจ เอกชน รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวให้เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น โดยตั้งเป้าว่าภายในปีงบประมาณ 67 รฟท.จะต้องเพิ่มสัดส่วนผู้ใช้บริการทั้งจำนวนผู้โดยสาร และการขนสินค้า จากเดิมมีสัดส่วนของขนสินค้าทางรางอยู่ที่ 3% หรือประมาณ 2,000 ล้านบาท ให้ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 30% หรือประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาท ภายในปี 67

“ผมขอให้ รฟท.ไปพิจารณาหาแนวทางเพิ่มรายได้ในปี 67 ไม่ให้มีผลดำเนินงานที่เป็นตัวแดง และในปีต่อๆไปก็พยายามทำให้มีกำไรจากผลประกอบการให้ได้ ซึ่งผมจะมาติดตามผลการดำเนินงานของรฟท.ทุกๆ 3 เดือนว่าจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร”นายสุรพงษ์ กล่าว และว่า สำหรับรายได้จากค่าโดยสารนั้น มองว่าสามารถเพิ่มได้หลังจากไม่มีการปรับราคาค่าโดยสารมากว่า 25 ปี ซึ่งการปรับราคาค่าโดยสารครั้งสุดท้ายเมื่อปี 38 ดังนั้นรฟท. ต้องไปพิจารณาดูราคาค่าโดยสารตามต้นทุนที่แท้จริง และอาจปรับเพิ่มในส่วนของรถไฟชั้น 1 และชั้น 2 ส่วนชั้น3 อาจจะต้องคงไว้ราคาเดิมสำหรับผู้ใช้บริการที่มีรายได้น้อย

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ตนยังได้สั่งการให้ รฟท. ปรับเปลี่ยนแผนการดำเนินการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 โดยในปีงบประมาณ 67 นี้ ให้นำโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้คือ โครงการรถไฟทางคู่ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม. วงเงินงบประมาณ 7,864.49 ล้านบาท มาดำเนินการก่อน เพื่อให้เกิดการค้าขายชายแดนที่สะดวกขึ้น โดยให้นำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. พิจารณาในวันที่ 19 ต.ค.นี้ ก่อนที่จะนำเสนอกระทรวงคมนาคมให้เสนอ ครม.พิจารณาเห็นชอบภายในเดือนพ.ย.นี้

อย่างไรก็ตาม รฟท.ยังมีโครงการเร่งด่วนที่ต้องนำเสนอครม.พิจารณาอีก 2 โครงการ คือ โครงการรถไฟทางคู่ สายขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 167 กม. วงเงิน 29,748 ล้านบาท และโครงการรถไฟทางคู่ สายปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 285 กม. วงเงิน 62,800 ล้านบาท คาดว่าไม่เกินสิ้นปีนี้จะสามารถนำเสนอครม.พิจารณาเห็นชอบ และน่าจะสามารถเปิดประมูลได้ในปี 67

ขณะเดียวกันยังสั่งการให้ รฟท. ไปเร่งรัดดำเนินโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดงส่วนต่อขยาย 3 เส้นทาง เส้นทาง ประกอบด้วย 1.ช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ระยะทาง 8.84 กม. วงเงิน 6,448.69 ล้านบาท 2.ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ระยะทาง 14.80 กม. วงเงิน 10,670.27 ล้านบาท และ3. ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช ระยะทาง 5.7 กม. วงเงิน 4,616 ล้านบาท ทั้งนี้เพื่อให้สามารถนำเสนอครม.เห็นชอบได้ภายในสิ้นปี 66 นี้