“สมโภชน์” รับมีหุ้น EA ถูก Force Sell ทำบาดเจ็บ แต่ยังไม่ตาย

ผู้ชมทั้งหมด 185 

“สมโภชน์” รับมีหุ้น EA ถูก Force Sell แก้ไขปัญหาจบเรียบร้อยแล้ว ยังถือหุ้นใหญ่ เผยทำทุกอย่างเต็มที่แบบมืออาชีพพร้อมขับเคลื่อนผลักดันธุรกิจไปข้างหน้า ระบุ “บาดเจ็บ แต่ยังไม่ตาย” ทีมผู้บริหารยังมีขวัญ

นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA แถลงข่าววันนี้ชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหุ้น EA เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า ยอมรับที่ผ่านมาได้นำหุ้นไปค้ำประกันเงินกู้โดยสัดส่วนของการกู้เป็นเพียง ประมาณ 3% ของมูลค่าทรัพย์สินที่มีทั้งหมด ณ ราคาหุ้นเมื่อทำสัญญา ส่วนตัวเห็นว่าสัดส่วน 3% ถือเป็นจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับหุ้นที่มี อีกทั้งเชื่อมั่นบริษัทจะสามารถดำเนินธุรกิจได้ตามแผนที่วางไว้ จึงประเมินว่าไม่มีความเสี่ยงกระทบถึงบริษัท

นายสมโภชน์ เปิดเผยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นตลอดช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมามีข่าวลือในทางลบต่างๆ เช่นลือว่าตนขายหุ้นออกไปแล้ว หรือปล่อยข่าวที่ทำให้กระทบกับความเชื่อมั่นของบริษัท มีทั้งการติดต่อไปยังผู้ถือหุ้นรายใหญ่เพื่อโน้มน้าวให้ขายหุ้นทิ้ง ในขณะที่จำนวนหุ้นที่ถูก Short Sell ก็มากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อหุ้นถูกเทขายออกมามากๆ ทำให้ราคาหุ้นลดลงและเกิดการถูก Force Sell จนกลายเป็น Snowball ทำให้ทุกคนเสียหาย และในวันนี้ผมก็ถูก Force Sell  ด้วยเช่นกันและเป็นคนที่เสียหายมากที่สุด  ซึ่งได้พิสูจน์แล้วว่าที่ลือกันว่าตนขายหุ้นออกไปก่อนหน้านั้นไม่เป็นความจริง

ทั้งนี้นายสมโภชน์ ได้ระบุเพิ่มเติมว่า ในช่วงที่ผ่านมาตนพยายามทุกวิถีทางในการเจรจากับสถาบันการเงิน ไม่ว่าจะเสนอทางเลือกให้กับเจ้าหนี้หลากหลายรูปแบบ อาทิ  หานักลงทุนเข้ามาซื้อหุ้นโดยทำ Big Lot เพื่อไม่ให้กระทบกับราคาหุ้นในกระดาน ขอจ่ายชำระบางส่วนพร้อมนำหลักทรัพย์ปลอดภาระที่อยู่กับเจ้าหนี้มาค้ำประกันเพิ่มขึ้น รวมถึงขอขยายเวลาชำระหนี้จากภายใน 3 วันขยายเป็น 15 วันโดยมีหลักฐานที่ยืนยันได้ว่าจะสามารถนำเงินมาชำระคืนได้อย่างแน่นอน เจ้าหนี้ก็ไม่ยอม จึงนำมาสู่การถูก Force Sell ดังกล่าวขึ้น

“ผมได้พยายามทำทุกทางอย่างเต็มที่แล้วแต่ไม่สำเร็จ จากสิ่งที่เกิดขึ้นตัวเองสูญเสีย wealth เป็นมูลค่าหลักหมื่นล้าน แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับสิ่งที่เกิดขึ้นไปกระทบกับความเชื่อมั่นของบริษัท กระทบภาพรวมของตลาด ผมขอโทษทุกคนที่เกี่ยวข้องด้วย นี่เป็นบทเรียนที่สำคัญ สิ่งที่เราเคยเข้าใจกันว่า ตลาดหลักทรัพย์เป็นที่ระดมทุนให้กับบริษัท แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนที่ผมได้เรียนรู้ว่า ทั้งที่สัดส่วนของการกู้เป็นเพียงประมาณ 3% ของมูลค่าทรัพย์สินที่มีทั้งหมด เมื่อเจอข่าวลือ ข่าวปล่อยต่างๆ ที่เกิดขึ้นและการทำ Short Sell เพื่อกดราคาหุ้น ผมยังโดน Force Sell ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้กลายเป็นตลาดทุนเป็นที่ทำลายธุรกิจ ขอให้กรณีของผมถือเป็นกรณีศึกษา อย่าได้เกิดกับใครอีกเลย”

สำหรับหุ้นที่เคยนำไปค้ำประกันเงินกู้ได้ถูกบังคับขายเพื่อชำระหนี้หมดแล้ว นับจากนี้แรงเทขายควรจะหมดไปแล้ว ดังนั้นต่อไปนี้ราคาหุ้น EA น่าจะเริ่มกลับมาสู่สภาพปกติ ส่วนราคาปิดเมื่อสิ้นสัปดาห์ที่แล้ว มองว่าเป็นราคาที่ไม่สะท้อนพื้นฐานที่แท้จริงของบริษัท ในอีกมุมหนึ่งวิกฤติที่เกิดขึ้นถือเป็นโอกาสของนักลงทุนที่มองเห็นอนาคตของ EA

“ผมบาดเจ็บนะ…แต่ยังไม่ตาย” วันนี้ปัญหาของผมเคลียร์จบหมดแล้ว ปัจจุบันยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน EA สัดส่วน มากกว่า 33% รวมทั้งพันธมิตรยังถือหุ้นมากกว่า 50% จากนี้จะเดินหน้าทำธุรกิจต่อไป ผู้บริหารและพนักงานของ EA ทุกคนยังกำลังใจดีมาก พร้อมร่วมมือเป็นพลังที่เข็มแข็งกว่าเดิม ในฐานะผู้บริหารผมยังคงทำหน้าที่อย่างดีที่สุดและเป็นมืออาชีพ ผมอยากให้นักลงทุนแยกแยะระหว่างเกมการเงินกับปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจออกจากกัน”

เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2567 ซึ่งเป็นวันที่หุ้นถูกเทขายอย่างวิกฤต เป็นวันที่ตนอยู่ต่างประเทศและได้ทำหน้าที่อย่างมืออาชีพในนามบริษัทฯได้ร่วมลงนามเซ็น MOU กับ China Railway Rolling Stock Corporation (CRRC) ผู้ผลิตรถไฟรายใหญ่ที่สุดของโลก ในฐานะ Strategic Partner ถือเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่มีความเชื่อมั่นต่อปัจจัยพื้นฐานของ EA และความเป็นมืออาชีพของผู้บริหารในการขับเคลื่อนองค์กร

ทั้งนี้มั่นใจว่าทิศทางที่บริษัทดำเนินการในเรื่อง พลังงานสะอาด การลดก๊าซคาร์บอน เป็นเทรนด์ใหญ่ของโลก และจะมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ประเทศไทยลดก๊าซเรือนกระจกตามที่ได้สัญญาในข้อตกลงระหว่างประเทศ ในส่วนของรายละเอียดของแผนธุรกิจรวมทั้งความกังวลของนักลงทุนที่มีต่ออนาคตของบริษัทจะขอชี้แจงในวันรุ่งขึ้น