“นายก” สั่งเร่งพัฒนาสนามบิน เล็งสร้างอาคารผู้โดยสารใหม่รับท่องเที่ยวบูม

ผู้ชมทั้งหมด 175 

“นายก” สั่งเร่งพัฒนาสนามบิน ขยายทางวิ่ง สร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ สนองนโยบายรัฐบาล รองรับท่องเที่ยว “เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์” บูม ลั่นพร้อมรับเที่ยวบินเช่าเหมาลำ ชี้อยู่ระหว่างเจรจาสายการบินอีซี่แอร์ไลน์

นายรัฐพล เจริญผล รักษาราชการแทนผู้อำนวยการท่าอากาศยานหัวหิน เปิดเผยถึงแผนพัฒนาท่าอากาศยานหัวหิน ว่า ในขณะอยู่ระหว่างดำเนินการของบราคา 48 ล้านบาทมาดำเนินการจ้างที่ปรึกษาในการออกแบบอาคารผู้โดยสารใหม่แยกกันระหว่างอาคารผู้โดยสารภายในประเทศและต่างประเทศให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 900 คนต่อชั่วโมง และให้ขยายอาคารจอดรถให้รองรับรถได้ 200 คัน พร้อมกับขยายหลุมจอดเพิ่มขึ้น คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการก่อสร้างในปี 2570 หลังจากที่มีการย้ายศูนย์ฝนหลวงหัวหิน ซึ่งจะช่วยยกระดับสนามบินรองรับการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ตามนโยบายของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้อาคารผู้โดยสารหลังปัจจุบันนั้นสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 300 คนต่อชั่วโมง ซึ่งเพียงพอที่จะรับเครื่องบินขนาด A-320 หรือ B737 ได้ครั้งวันละ 1 เที่ยวบิน โดยมีสายการบินของแอร์เอเชียที่ทำการบินเส้นทางบิน เชียงใหม่-หัวหิน แต่ยังมีศักยภาพในการรองรับเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (Charter flight) สามารถรองรับได้วันละ 4 เที่ยวบิน ซึ่งขณะนี้สายการบินอีซี่แอร์ไลน์อยู่ระหว่างเจรจาขอเปิดเส้นทางบินระหว่างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-หัวหิน   

อย่างไรก็ตามในการพัฒนาท่าอากาศยานหัวหินก่อนหน้านั้นได้ดำเนินการขยายทางวิ่ง (รันเวย์) วงเงินลงทุน 236 ล้านบาท และอยู่ระหว่างขยายอุโมงค์และขยายพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง บริเวณหัวทางวิ่ง 16 กรอบวงเงินลงทุน 300 ล้านบาท เพื่อลดความเสี่ยงของอากาศยานที่อาจเกิดการไถลออกนอกทางวิ่ง โดยขยายพื้นที่ปลอดภัย​รอบทางวิ่งจากเดิมด้านละ 40 เมตรเป็นด้านละ 60 เมตร ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาต่อรองกับผู้รับเหมาก่อสร้าง คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในปลายปี 2568

“ยอมรับว่าปัจจุบันสนามบินหัวหินมีข้อจำกัดเรื่องการขยายลานจอดและการขยายอาคารผู้โดยสาร​ เนื่องจากหากสร้างออกต่อไปทางทะเลอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม​ รวมถึงไม่สามารถขยายพื้นที่ได้เนื่องจากที่ดินมีราคาสูง”

นายรัฐพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาในปี 2562 ถือว่ามีเที่ยวบินที่ทำการบินมายังท่าอากาศยานหัวหินมากที่สุด จนกระทั่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลต่อผู้โดยสารลดลง อย่างไรก็ตามหลังจากสถานการณ์โควิด – 19 เริ่มคลี่ ผู้โดยสารก็เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น โดยในปี 2566 มีจำนวนผู้โดยสารรวมประมาณ 1 แสน 3 หมื่นคนหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 60 ส่วนในปีนี้ ผ่านไปครึ่งปีมีจำนวนผู้โดยสารอยู่ที่ประมาณ 19,000 คน คาดว่า จนถึงสิ้นปีจะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น