“ศักดิ์สยาม” เชื่อผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศหนุนผู้โดยสาร ทอท. พุ่ง 7 หมื่นคนต่อวัน

ผู้ชมทั้งหมด 728 

“ศักดิ์สยาม” การันตี 6 สนามบิน ทอท. มีความพร้อมรองรับผ่อนคลายข้อกำหนดเข้าประเทศ 1 มิ.ย. นี้ คาดหนุนผู้โดยสารพุ่ง 7 หมื่นคนต่อวัน ขณะที่ภาพรวมทั้งปีคาดทะลุ 22 ล้านคน

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังลงพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตรวจความพร้อมขั้นตอนการให้บริการและการอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 (ศบค.) ได้ผ่อนคลายข้อกำหนดการเข้า ราชอาณาจักรไทย สำหรับผู้เดินทางมาจากต่างประเทศเพิ่มเติม ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 โดยระบุว่า บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ประเมินว่าจำนวนผู้โดยสารและเที่ยวบินของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะทยอยปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าในเดือนมิถุนายนนี้จะมีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นในภาพรวมประมาณ 70,000 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นจากประมาณ 64,000 คนต่อวันในเดือนพฤษภาคม 2565 โดยแบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศร้อยละ 57 และในประเทศร้อยละ 43

ส่วนภาพรวมทั้งปี 2565 ทาง AOT คาดการณ์ไว้ว่าจะมีผู้โดยสารอยู่ในระดับ 22 ล้านคน เนื่องจากกลุ่มประเทศยุโรปได้ผ่อนคลายมาตรการเข้าออกประเทศแล้ว ขณะที่กลุ่มประเทศเอเชียก็เริ่มทยอยเปิดประเทศเช่นกัน โดยในช่วงไตรมาส 4/2565 ซึ่งเป็นฤดูการท่องเที่ยวหรือไฮซีซั่น ปัจจุบันมียอดบุ๊กกิ้งตั๋วโดยสารสูงมาก คาดว่าจะสูงถึง 50% ของปริมาณการเดินทางช่วงก่อนโควิด – 19 ในปี 2562

อย่างไรก็ตามหากจีนเปิดประเทศตนเชื่อว่าผู้โดยสารจะเติบโตมากกว่า 22 ล้านคน ซึ่งก็ต้องดูว่าจีนจะเปิดประเทศเมื่อไหร่ เพราะจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของผู้โดยสารได้อย่างมีนัยสำคัญ รวมไปถึงความขัดแย้งของรัสเซีย และยูเครนหากดีขึ้นก็จะมีการเดินทางเข้ามาอีก ขณะที่จำนวนเที่ยวบินนั้นคาดว่าจะเพิ่มเป็นเฉลี่ยวันละประมาณ 480 เที่ยวบิน จากเฉลี่ยวันละประมาณ 440 เที่ยวบินในเดือนพฤษภาคม 2565 แยกเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศร้อยละ 55 และเที่ยวบินในประเทศร้อยละ 45

ส่วนคว่ามพร้อมของท่าอากาศยานสุวรรณภูมินั้นมีความพร้อมในทุกด้านที่จะรองรับการเดินทาง ทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นความพร้อมทางด้านการตรวจจุดคัดกรองด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ จุดตรวจหนังสือเดินทาง และจุดตรวจศุลกากร

โดยภายหลังที่ ศบค. ได้มีมติผ่อนคลายข้อกำหนดการเข้าประเทศเพิ่มเติม ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ร่วมกับ ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (Emergency Operation Center : EOC) ในการซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการคัดกรองตามข้อกำหนดใหม่ เพื่อให้การบริการแก่ผู้โดยสารเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ  

ส่วนท่าอากาศยานอีก 5 แห่งของ AOT ประกอบด้วย ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานหาดใหญ่ ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานกระบี่ของกรมท่าอากาศยาน (ทย.) ก็มีความพร้อมทุกด้านเช่นกันที่จะรองรับการเดินทางของผู้โดยสารทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ตามมาตรการผ่อนคลายข้อกำหนดของ ศบค.

สำหรับมาตรการคัดกรองการเดินทางที่รัฐได้ผ่อนคลาย และจะมีผลใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 ในส่วนของคนไทย จะยกเว้นการใช้ระบบ Thailand Pass ซึ่งคาดว่าจะทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยว และการเดินทางเข้าประเทศเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้ออกประกาศมาตรการ มีดังนี้

1. ผู้โดยสารสัญชาติไทยได้รับการยกเว้นการใช้ Thailand Pass ในการเดินทางเข้าประเทศ ทั้งนี้ จะต้องแสดงหลักฐานการรับวัคซีนหรือแสดงผลการตรวจหาเชื้อโควิด โดยสามารถดูรายชื่อวัคซีนได้ที่ www.caat.or.th

2. ผู้โดยสารชาวต่างชาติจะต้องลงทะเบียน Thailand Pass ก่อนการเดินทาง โดยจะได้รับ QR CODE หลังจากการลงทะเบียน ทั้งนี้ สายการบินอาจปฏิเสธการให้ขึ้นเครื่องบิน หากผู้โดยสารไม่แสดง QR CODE ของ Thailand Pass

3. ผู้โดยสารที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนสามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ โดยไม่ต้องมีผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทั้งนี้ แนะนำว่าให้ตรวจหาเชื้อด้วย RAPID ANTIGEN TEST (ATK) เมื่อมีอาการ 

4. ผู้โดยสารชาวต่างชาติที่เป็นผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือได้รับวัคซีนไม่ครบถ้วนจะต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี PROFESSIONAL ATK หรือ RT-PCR ก่อนการเดินทาง 72 ชั่วโมง


5. ผู้โดยสารชาวต่างชาติจะต้องมีประกันสุขภาพวงเงินไม่ต่ำกว่า USD 10,000 หรือหนังสือรับรองการรักษาพยาบาลตลอดระยะเวลาที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย

6. สายการบินจะต้องตรวจสอบว่าผู้โดยสารชาวต่างชาติมี QR CODE ของ Thailand Pass ในกรณีที่ตรวจพบว่าผู้โดยสารชาวต่างชาติไม่มี QR CODE ของ Thailand Pass เมื่อมาถึงประเทศไทย สายการบินมีหน้าที่รับผิดชอบในการดูแลผู้โดยสาร

7. ผู้โดยสารที่ไม่มี THAILAND PASS, เอกสารรับรองการฉีดวัคซีนหรือ ผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี PROFESSIONAL ATK หรือ RT-PCR จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าหน้าที่ด่านกักกันโรค

8. ผู้ดำเนินงานสนามบิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด เช่น การสวมหน้ากากอนามัย การตรวจวัดอุณหภูมิคัดกรองขาเข้าและขาออก ตามที่ราชการกำหนด โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2565 เป็นต้นไป

สำหรับกรณีการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษวานรในต่างประเทศนั้น ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศได้เริ่มดำเนินการกระบวนการคัดกรองผู้เดินทางจากประเทศที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษแล้ว และได้กำหนดขั้นตอนปฏิบัติหากพบผู้โดยสารที่เข้าเกณฑ์ต้องสงสัย การสอบสวนโรค รวมถึงขั้นตอนการส่งต่อผู้โดยสารที่เข้าเกณฑ์ผู้ป่วยไปยังสถาบันบำราศนราดูร โดยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมให้การสนับสนุนการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง