ผู้ชมทั้งหมด 619
กบง. ถก 27 มิ.ย.นี้ พิจารณาต่ออายุมาตรการตรึงราคา LPG อยู่ที่ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ที่จะสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. 2567 หรือไม่ ขณะที่กองทุนฯ เหลือวงเงินชดเชย 2,385 ล้านบาท จากกรอบวงเงินรวม 50,000 ล้านบาท ชี้ หากไม่ต่ออายุมาตรการ ราคาขายปลีกเตรียมปรับขึ้น
มาตรการตรึงราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว(LPG) หรือ ก๊าซหุงต้ม อยู่ที่ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม จะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 มิ.ย. 2567 หากคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ไม่มีมติต่ออายุมาตรออกไป
แหล่งข่าวกระทรวงพลังงาน ระบุว่า คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เตรียมประชุมในวันที่ 27 มิ.ย.นี้ ซึ่งหนึ่งในวาระสำคัญจะมีการพิจารณาว่า จะต่ออายุมาตรการตรึงราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว(LPG) ออกไปอีกหรือไม่ โดยหากมีมติให้ต่ออายุมาตรการออกไปอีก จำเป็นจะต้องใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในส่วนของบัญชี LPG มามาดูแล ซึ่งเดิมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้อนุมัติขยายกรอบวงเงินชดเชยราคาวงเงินรวมอยู่ที่ 50,000 ล้านบาทปัจจุบัน ใช้อุดหนุนราคา LPG ไปแล้ว 47,615 ล้านบาท เหลือเงินอุดหนุนราคาได้อีก 2,385 ล้านบาทเท่านั้น ขณะเดียวกันหากมีมติเลิกยกเลิกการอุดหนุนราคาLPG ก็จะส่งผลให้ราคา LPG ปรับขึ้นตามกลไกตลาดโลก
ทั้งนี้ ปัจจุบัน กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในส่วนของบัญชี LPG ได้ใช้ชดเชยราคา LPG อยู่ประมาณ 4.74 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อให้ราคาขายปลีกอยู่ที่ 25.87 บาทต่อกิโลกรัม หรือ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ส่งผลให้กองทุนฯ มีเงินไหลออกจากการชดเชย LPG ประมาณ 50.76 ล้านบาทต่อวัน หรือประมาณ 1,522 ล้านบาทต่อเดือน ขณะที่ราคา LPG โลกยังทรงตัวระดับสูงประมาณ 582.50 ดอลลาร์ฯต่อตัน
ขณะที่ ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ล่าสุด ณ วันที่ 16 มิ.ย. 2567 ติดลบรวม 110,711 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีน้ำมัน ติดลบ63,096 ล้านบาท ส่วนบัญชี LPG ติดลบ 47,615 ล้านบาท
สำหรับ มาตรการตรึงราคา LPG อยู่ที่ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัมนั้น กบง. ได้เริ่มใช้มาตรการมาตั้งแต่เดือน มี.ค. 2566 รวมเป็นเวลากว่า 1 ปี