ราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้อ่อนตัวเล็กน้อย เหตุการซื้อขายเบาบางในช่วงวันหยุดสิ้นปี

ผู้ชมทั้งหมด 5,198 

ไทยออยล์ ชี้ราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้มีแนวโน้มอ่อนตัวเล็กน้อย จากการซื้อขายที่เบาบางในช่วงวันหยุดสิ้นปี ขณะที่ตลาดจับตาผลกระทบสถานการณ์ทะเลแดง คาดเวสต์เท็กซัส เคลื่อนไหวที่กรอบ 69 – 76 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลส่วนเบรนท์ เคลื่อนไหวที่กรอบ 75 – 82 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP เปิดเผยบทวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันประจำสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 25 – 29 ธ.ค. 66 พบว่าราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มอ่อนตัวลงเล็กน้อย เนื่องจากการซื้อขายในตลาดที่คาดการณ์ว่าจะเบาบางในช่วงวันหยุดคริสมาสต์ อย่างไรก็ตามราคายังได้รับแรงสนับสนุนจากความไม่แน่นอนในบริเวณทะเลแดงเนื่องจากบริษัทรายใหญ่หยุดการขนส่งน้ำมันผ่านทะเลแดง และปรับเปลี่ยนเส้นทางการขนส่ง ตลาดยังคงกังวลถึงผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันดิบจากการปรับลดการผลิตน้ำมัน รวมถึง ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มปรับลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าจากอุปสงค์น้ำมันดิบที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

สำหรับปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้ ประกอบด้วย

  • ตลาดยังคงจับตาสถานการณ์ความไม่แน่นอนในทะเลแดง ภูมิภาคตะวันออกลางอย่างใกล้ชิดภายหลังกองกำลังฮูตี (Houthi) โจมตีเรือบรรทุกสินค้าทุกลำที่มุ่งหน้ามายังอิสราเอลผ่านทะเลแดง ส่งผลให้ตลาดกังวลถึงผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูป หลังบริษัทรายใหญ่ ได้แก่ BP, MSC และ Maersk หยุดหรือปรับเปลี่ยนเส้นทางการขนส่งน้ำมันผ่านทะเลแดงไปเป็นเส้นทางผ่านแหลมกู้ดโฮป ซึ่งจะใช้เวลนานมากขึ้นกว่า 10 วัน ซึ่งทำให้ค่าขนส่งเรือ Suezmax สูงขึ้น 29% รวมถึง War risk premium สูงขึ้นจาก 2,000 เป็นกว่า 10,000 เหรียญฯ อย่างไรก็ตาม ผลกระทบยังถือว่าอยู่ในพื้นที่จำกัด ขณะที่สหรัฐฯ และหลายประเทศได้ร่วมกันจัดตั้งปฏิบัติการเพื่อปกป้องการค้าในทะเลแดงและบริเวณอ่าวเอเดนเพื่อป้องกันความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น
  • Goldman Sachs ปรับลดการคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปี 2567 ลงราว 10 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล โดยคาดว่าจะอยู่ที่ช่วงราคา 70-90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากตลาดมีแนวโน้มตึงตัวน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้โดยอุปทานน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ในปีหน้าได้คาดการณ์ว่าจะปรับตัวสูงขึ้นที่ระดับ 0.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 0.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน สืบเนื่องจากประสิทธิภาพการขุดเจาะน้ำมันสูงขึ้น
  • อุปทานน้ำมันดิบยังคงมีความไม่แน่นอน โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอาจไม่มีการลดกำลังการผลิตน้ำมันเพิ่มเติมจากกลุ่ม OPEC+ ภายในสิ้นปีนี้ แม้ว่ารัสเซียอาจมีการปรับลดปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบลงอีกกว่า 50,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือน ธ.ค. 66 เพิ่มเติมจากระดับ 0.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน ที่เคยมีมติไว้ก่อนหน้านี้ เพื่อสนับสนุนระดับราคาน้ำมันดิบโลก
  • ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดการณ์ว่าจะปรับลดลงจากความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากโรงกลั่นเริ่มกลับมาจากการปิดซ่อมบำรุงและเพิ่มกำลังการกลั่นเพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดย สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณการกลั่นน้ำมันดิบของสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 15 ธ.ค. 66 ปรับเพิ่มขึ้นมาสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนที่ราว 16.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน
  • เศรษฐกิจน่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญของจีน ได้แก่ ตัวเลขอุตสาหกรรม PMI เดือน ธ.ค. 66 และตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ รายงานยอดขายบ้านใหม่เดือน พ.ย. 66

ทั้งนี้ ไทยออยล์ คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 69 – 76 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 75 – 82 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ส่วนสรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 18 – 22 ธ.ค. 66 พบว่า ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับเพิ่มขึ้น 2.13 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 73.56 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เช่นเดียวกันกับราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ปรับเพิ่มขึ้น 2.52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 79.07 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบปิดเฉลี่ยอยู่ที่ 79.08 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เนื่องจากตลาดยังคงกังวลการโจมตีเรือบรรทุกสินค้าโดยกองกำลังฮูตีในทะเลแดง โดยเส้นทางทะเลแดงถูกใช้ในการขนส่งน้ำมันเป็นเส้นทางหลัก ส่งผลกระทบต่อการขนส่งสินค้าทางเรือ มีผลให้บริษัทมันรายใหญ่ หยุดการขนส่งน้ำมันผ่านทะเลแดง และปรับเปลี่ยนเส้นทางการขนส่ง และมีค่าใช้จ่ายในการบรรทุกสินค้าทางเรือสูงขึ้น

นอกจากนี้เศรษฐกิจโลกได้รับแรงสนับสนุนหลังอัตราเงินเฟ้ออังกฤษ เดือน พ.ย. 66 ลดลงสู่ ระดับ 3.9% น้อยกว่าเดือน ต.ค.66 ที่ระดับ 4.6%โดยต่ำที่สุดในรอบ 2 ปี บ่งชี้ถึงความกังวลทางเศรษฐกิจที่น้อยลง และอาจสนับสนุนความต้องการใช้น้ำมันให้ปรับตัว สูงขึ้นในยุโรป อย่างไรก็ตาม ตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 15 ธ.ค. 66 ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 2.9 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 443.7 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับลดลงราว 2.3 ล้านบาร์เรล