ผู้ชมทั้งหมด 845
“ยูนิเวนเจอร์ บีจีพี” บริษัทร่วมทุน “บี.กริม เพาเวอร์” และ “ยูนิเวนเจอร์” ซื้อหุ้น 100% ใน “อีสเทอร์น โคเจนเนอเรชั่น” เข้าถือหุ้น 3 โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม 360 เมกะวัตต์ หวังดันกำลังผลิตในมือเข้าเป้า 500 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568
บริษัท ยูนิเวนเจอร์ บีจีพี จำกัด หรือ UVBGP ซึ่งบริษัทร่วมทุนบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM และบริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ UV ซึ่งถือหุ้นในสัดส่วน 45% และ 55% ตามลำดับ อยู่ระหว่างการเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของ บริษัท อีสเทอร์น โคเจนเนอเรชั่น จำกัด หรือE-COGEN ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EP เพื่อให้ได้มาซึ่งการถือหุ้น 100% ในบริษัท เอสเอสยูที จำกัด หรือ SSUT และ 74.5-100% ในบริษัท พีพีทีซี จำกัด หรือ PPTC ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม (Combined Cycle Cogeneration Power Plants)
รวมทั้งสิ้น 3 โครงการ กำลังการผลิต 360 เมกะวัตต์ ทุกโครงการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโครงการละ 90 เมกะวัตต์กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นระยะเวลา 25 ปี และจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมในนิคมอุตสาหกรรม โดยการเข้าซื้อโครงการในครั้งนี้ ใช้เงินลงทุนรวม 12,400 ล้านบาท และคาดการณ์ว่าการเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของ UVBGP ใน E-COGEN จะเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2564
ทั้งนี้ SSUT เป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม 2 โครงการ รวมกำลังการผลิตติดตั้งไฟฟ้า 240 เมกะวัตต์ และไอน้ำ 60 ตัน/ชั่วโมง ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู ซึ่งเริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ เมื่อเดือนธันวาคม 2559 และ PPTC เป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม 1 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งไฟฟ้า 120 เมกะวัตต์ และไอน้ำ 30 ตัน/ชั่วโมง ในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เมื่อเดือนมีนาคม 2559
ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM กล่าวว่า การเข้าลงทุนของ UVBGP ใน SSUT และ PPTC สะท้อนหลักการดำเนินธุรกิจโดยเน้นถึงความร่วมมือกัน (partnership) ที่ยึดมั่นมาตลอดของ บี.กริม รวมถึงความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนความแข็งแกร่งของภาคอุตสาหกรรมซึ่งดำเนินการต่อเนื่องมามากกว่า 25 ปี และยังสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การขยายธุรกิจและการให้บริการด้านสาธารณูปโภคแบบครบวงจรของ บี.กริม เพาเวอร์ โดยจะใช้หลักการความเป็นมืออาชีพ (professionalism) ในการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพของโรงไฟฟ้าทั้ง 3 โครงการนี้อย่างต่อเนื่องในอนาคตด้วย
นายกำพล ปุญโสณี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเข้าลงทุนครั้งนี้ สอดคล้องกับกลยุทธ์การปรับโครงสร้างและสร้างความสมดุลในการลงทุนของบริษัทฯ เพื่อกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพิงรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นหลักในปัจจุบัน โดยการลงทุนในครั้งนี้จะส่งผลให้ฐานรายได้และกำไรของบริษัทเติบโตขึ้น จากสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวที่มีอยู่ และโอกาสในการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำที่สามารถรองรับลูกค้ารายใหม่ได้ในอนาคต ทำให้บริษัทมีแหล่งรายได้ที่มีความสม่ำเสมอ (Recurring Income) และต่อเนื่องในระยะยาว
ปัจจุบัน บี.กริม เพาเวอร์ มีโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วรวม 50 โครงการ กำลังผลิตติดตั้งรวม 2,894 เมกะวัตต์ โดยตั้งเป้าการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็น 7,200 เมกะวัตต์ในปี 2568 และ 10,000 เมกะวัตต์ภายในปี 2573 ด้วยเป้าหมายรายได้กว่า 100,000 ล้านบาท คงการเป็นผู้นำด้านบริษัทผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าชั้นนำของโลก
พร้อมกำหนดเป้าหมายระยะยาวที่สำคัญ คือ การก้าวสู่องค์กรที่ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ Net-Zero Carbon Emissions ได้ภายในปี 2573 (ค.ศ. 2050) ตามวิสัยทัศน์ของ บี.กริม เพาเวอร์ ที่มุ่งสร้างพลังให้กับสังคมโลกด้วยความโอบอ้อมอารี (Empowering the World Compassionately) โดยยึดหลักการดำเนินธุรกิจด้วยความโอบอ้อมอารี เพื่อสร้างคุณค่าให้กับสังคม พร้อมเติบโตเคียงคู่ไปกับประเทศไทย
สำหรับ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ บีจีพี จำกัด เป็นการร่วมมือกันระหว่าง BGRIM และ UV ในการร่วมลงทุนในธุรกิจพลังงานที่สนับสนุนธุรกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการลงทุนอื่น อันครอบคลุมโครงการพลังงานในรูปแบบต่าง ๆ เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา โครงการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ติดตั้งบนทุ่นลอยนํ้า โรงไฟฟ้าชีวมวล โรงไฟฟ้าแบบผสมผสาน บริการ Energy Solution และโครงการสมาร์ทกริด โดยตั้งเป้าขยายกำลังผลิตไฟฟ้าสู่ 500 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568