ผู้ชมทั้งหมด 3,718
กรมธุรกิจพลังงาน เผย ยอดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงรอบ 8 เดือนของปี 2566 (ม.ค. – ส.ค.) อยู่ที่ 154.88 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้น 2.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่น้ำมันเครื่องบิน โต 70% ภาคการท่องเที่ยวหนุน
นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า ภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยเดือนมกราคม – สิงหาคม 2566 พบว่า อยู่ที่ 154.88 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 2.3 โดยการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.5 น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เพิ่มขึ้นร้อยละ 70.0 และการใช้ NGV เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 ขณะที่ น้ำมันกลุ่มดีเซล น้ำมันเตาและ LPG มีการใช้ลดลงร้อยละ 3.9 ร้อยละ 9.3 และร้อยละ 0.6 ตามลำดับ
การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน เดือนมกราคม – สิงหาคม 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 31.91 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 5.5 การใช้แก๊สโซฮอล์ 95 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 18.10 ล้านลิตร/วัน และแก๊สโซฮอล์ อี20 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5.94 ล้านลิตร/วัน ขณะที่การใช้แก๊สโซฮอล์ 91 แก๊สโซฮอล์ อี85 และเบนซิน ลดลงมาอยู่ที่ 6.83 ล้านลิตร/วัน 0.19 ล้านลิตร/วัน และ 0.47 ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ ทั้งนี้ ส่วนต่างราคาแก๊สโซฮอล์ 95 ใกล้เคียงกับแก๊สโซฮอล์ 91 ประกอบกับแก๊สโซฮอล์ อี20 มีราคาที่ต่ำกว่าแก๊สโซฮอล์ อี85
การใช้น้ำมันกลุ่มดีเซล เดือนมกราคม – สิงหาคม 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 70.00 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 3.9 โดยเป็นการลดลงทุกชนิด สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 ลดลงมาอยู่ที่ 64.30 ล้านลิตร/วัน ขณะที่น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาและน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 และน้ำมันดีเซลพื้นฐาน ปริมาณการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 0.90 ล้านลิตร/วัน 0.15 ล้านลิตร/วัน และ 4.65 ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ ทั้งนี้ ภาครัฐยังคงมาตรการช่วยเหลือราคาน้ำมันดีเซล โดยใช้มาตรการลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลจนถึงวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 และตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2566 จะใช้มาตรการตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไว้ที่ 32 บาทต่อลิตร ต่อไปอีกระยะเวลาหนึ่ง โดยกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จะเข้าไปชดเชย เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนและภาคธุรกิจภายใต้สถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซลโลกมีความผันผวนจากความกังวลทางเศรษฐกิจและวิกฤตด้านการเงินจากความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เดือนมกราคม – สิงหาคม 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 13.30 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 70.0 เนื่องจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและนักท่องเที่ยวกลับมาเดินทางทางอากาศยานเพิ่มมากขึ้น แต่เมื่อพิจารณาจากช่วงเดือนที่ผ่านมาปริมาณการใช้ปรับตัวลดลงเล็กน้อย
การใช้ LPG เดือนมกราคม – สิงหาคม 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 18.19 ล้านกก./วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 0.6 โดยภาคปิโตรเคมีมีการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 8.24 ล้าน กก./วัน ภาคครัวเรือนลดลงมาอยู่ที่ 5.70 ล้าน กก./วัน และภาคอุตสาหกรรมลดลงมาอยู่ที่ 2.00 ล้าน กก./วัน ขณะที่การใช้ในภาคขนส่งอยู่ที่ 2.25 ล้าน กก./วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.3 เนื่องจากราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้น
การใช้ NGV เดือนมกราคม – สิงหาคม 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 3.43 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 1.0 เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาดำเนินการตามปกติ ประกอบกับมาตรการบรรเทาผลกระทบราคาพลังงาน โดย ปตท. ร่วมอุดหนุนกลุ่มรถแท็กซี่และกลุ่มรถโดยสารสาธารณะ ตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2566 จนถึงสิ้นปี
ส่วนการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง เดือนมกราคม – สิงหาคม 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 1,042,520 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น จากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 1.3 คิดเป็นมูลค่าการนำเข้ารวม 92,532 ล้านบาท/เดือน โดยเป็นการนำเข้าน้ำมันดิบอยู่ที่ 968,409 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 คิดเป็นมูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบอยู่ที่ 87,481 ล้านบาท/เดือน สำหรับการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป (น้ำมันเบนซินพื้นฐาน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน และ LPG) อยู่ที่ 74,111 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.8 คิดเป็นมูลค่าการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปอยู่ที่ 5,051 ล้านบาท/เดือน
ขณะที่การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป เดือนมกราคม – สิงหาคม 2566 เป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน น้ำมันก๊าด และ LPG โดยปริมาณส่งออกอยู่ที่ 164,378 บาร์เรล/วัน ลดลงร้อยละ 3.0 คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 16,500 ล้านบาท/เดือน