ผู้ชมทั้งหมด 1,006
กบน. สั่งลดเก็บเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันทั้งกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ และดีเซล เฉลี่ย 30-40 บาทต่อลิตร หวังบรรเทาผลกระทบผู้ใช้น้ำมัน หลังราคาน้ำมันโลกปรับขึ้น
ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกที่กลับมาปรับสูงขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยล่าสุด วันที่ 23 ก.ย. 2567 เวลาประมาณ 15.00 น. ราคาน้ำมันดิบดูไบ อยู่ที่ระดับ 73.97 ดอลลาร์ฯต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.44 ดอลลาร์ฯต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัส (WTI) อยู่ที่ 71.53 ดอลลาร์ฯต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.53 ดอลลาร์ฯต่อบาร์เรล และเบรนท์ (BRENT) อยู่ที่ 74.95 ดอลลาร์ฯต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.46 ดอลลาร์ฯต่อบาร์เรล
คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2567 จึงมีมติให้ปรับลดการเรียกเก็บเงินผู้ใช้น้ำมัน เพื่อส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลง ทั้งกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ และกลุ่มดีเซล โดยกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ ปรับลดลง 30 สตางค์ต่อลิตร ส่วนกลุ่มดีเซล ปรับลดลง 40 สตางค์ต่อลิตร
แหล่งข่าวกระทรวงพลังงาน ระบุว่า การลดเก็บเงินส่งเข้ากองทุนฯ ดังกล่าว สืบเนื่องจากราคาน้ำมันโลกผันผวนปรับขึ้น ดังนั้น เพื่อไม่ให้กระทบการปรับขึ้นราคาขายปลีกหน้าสถานีบริการน้ำมันมากเกินไป กบน.จึงเห็นควรให้ปรับลดการเรียกเก็บเงินส่งเข้ากองทุนฯ เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน
อย่างไรก็ตาม การปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนฯ ดังกล่าว ส่งผลให้ผู้ใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลและดีเซล B20 จะส่งเข้ากองทุนฯ อยู่ที่ 3.19 บาทต่อลิตร, ดีเซล เกรดพรีเมี่ยม ส่งเข้า 4.69 บาทต่อลิตร ส่วนกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ เป็นดังนี้ แก๊สโซฮอล์95 และ 91 ส่งเข้า 4.60 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ส่งเข้า 2.61 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ส่งเข้า 1.16 บาทต่อลิตร และเบนซินออกเทน 95 ส่งเข้า 10.68 บาทต่อลิตร
ทั้งนี้ จะส่งผลให้กองทุนฯ มีเงินไหลเข้าจากบัญชีน้ำมันรวม 324 ล้านบาทต่อวัน ส่วนบัญชีก๊าซหุงต้ม (LPG) มีเงินไหลเข้า 4.24 ล้านบาทต่อวัน รวมเงินไหลเข้าประมาณ 328.24 ล้านบาทต่อวัน และปัจจุบันกองทุนฯ ไม่มีการชดเชยราคาน้ำมันทุกชนิดแล้วนับตั้งแต่วันที่ 6 ส.ค. 2567
ขณะที่สถานะกองทุนน้ำมันฯ ล่าสุด ณ วันที่ 20 ก.ย. 2567 ติดลบรวม 103,347 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีน้ำมันติดลบรวม 55,892 ล้านบาท และบัญชีแก๊สหุงต้ม (LPG) ติดลบรวม 47,455 ล้านบาท