มติ กบน.รีดเงินดีเซลเข้ากองทุนน้ำมันฯเพิ่ม 47 สต./ลิตร

ผู้ชมทั้งหมด 170 

กบน.รีดเงินผู้ใช้ดีเซล ส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯเพิ่ม 47 สตางค์ต่อลิตร หลังราคาตลาดโลกลดลง ขณะที่สถานะกองทุนฯติดลบ ลดลงเหลือ 69,333 ล้านบาท ด้าน สนพ.เผย ค่าการตลาดน้ำมันเฉลี่ย อยู่ที่ 2.43 บาทต่อลิตร

สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผย สถานะเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ล่าสุด ณ วันที่ 16 ก.พ. 2568 พบว่า เงินกองทุนฯ ติดลบเหลือ 69,333 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีน้ำมัน ติดลบเหลือ 22,933 ล้านบาท และบัญชีก๊าซหุงต้ม (LPG) ติดลบ อยู่ที่ 46,400 ล้านบาท ทั้งนี้ เงินกองทุนน้ำมันฯ ติดลบลดลงจากปี 2567 ที่เคยติดลบระดับแสนล้านบาท เนื่องจากการหยุดชดเชยราคาดีเซล ทำให้สภาพคล่องของกองทุนฯเริ่มดีขึ้น

ขณะที่ ล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2568 มีมติเรียกเก็บเงินผู้ใช้น้ำมันดีเซลทุกชนิดส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ เพิ่ม 47 สตางค์ต่อลิตร ส่งผลให้ผู้ใช้น้ำมันดีเซล ต้องส่งเงินเข้ากองทุนฯ 1.02 บาทต่อลิตร และผู้ใช้ดีเซลเกรดพรีเมียม ต้องส่งเงินเข้ากองทุนฯ 2.05 บาทต่อลิตร

ส่วนกลุ่มผู้ใช้น้ำมันเบนซิน และ แก๊สโซฮอล์ ยังคงอัตราส่งเงินเข้ากองทุนฯ ตามเดิม ดังนี้ ผู้ใช้น้ำมันเบนซิน ออกเทน95 ส่งเข้ากองทุนฯ 10.68 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์95 และ 91 ส่งเข้า 4.60 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ส่งเข้า 2.61 บาทต่อลิตร และ น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ส่งเข้า 1.16 บาทต่อลิตร

สำหรับการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนฯ ในครั้งนี้ เนื่องจากราคาน้ำมันตลาดโลกปรับลดลงลง จึงต้องป้องกันไม่ให้ค่าการตลาดของผู้ค้าน้ำมันสูงเกินไป อีกทั้งยังเป็นจังหวะที่ดีที่จะช่วยเพิ่มเสริมสภาพคล่องให้กับกองทุนฯ เนื่องจากยังมีภาระที่ต้องชำระคืนหนี้เงินกู้สถาบันการเงิน ที่ปัจจุบันเหลืออยู่ประมาณ 104,083 ล้านบาท จากที่กู้มา 105,333 ล้านบาท ในปี 2565-2566

ด้าน สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผย ค่าการตลาดของผู้ค้าน้ำมัน ณ วันที่ 19 ก.พ. 2568 พบว่า ค่าการตลาดกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ ยังทรงตัวระดับสูง โดยน้ำมันเบนซินออกเทน 95 มีค่าการตลาด อยู่ที่ 3.79 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 มีค่าการตลาดอยู่ที่ 2.69 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์91 อยู่ที่ 2.77 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 อยู่ที่ 3.44 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 อยู่ที่ 6.78 บาทต่อลิตร, ดีเซล อยู่ที่ 1.89 บาทต่อลิตร  โดยเฉลี่ยค่าการตลาดระหว่าง 1-19 ก.พ. 2568 อยู่ที่ 2.43 บาทต่อลิตร (จากค่าการตลาดที่เหมาะสม 1.5-2 บาทต่อลิตร)