มติ กบน. ตรึงราคาดีเซลลิตรละ 35 บาท ถึงสิ้นเดือน ก.ค.

ผู้ชมทั้งหมด 689 

บอร์ด กบน.ไฟเขียวตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลที่ลิตรละ 35 บาท ถึงสิ้นเดือนก.ค.นี้ หวังช่วยลดผลกระทบค่าครองชีพของประชาชน ขณะที่กองทุนน้ำมันติดลบกว่า 1.15 แสนล้านบาท

นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) วันนี้ (25 กรกฎาคม 2565) ได้พิจารณาทบทวนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลประจำสัปดาห์ โดยมีมติให้คงราคาน้ำดีเซลไว้ที่ลิตรละ 34.94 บาท โดยเป็นการตรึงราคาต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 6 ทั้งนี้เพื่อมีส่วนช่วยลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชน และบริหารจัดการสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้สามารถช่วยเหลือราคาน้ำมันให้อยู่ในระดับราคาที่เหมาะสมได้ยาวนานขึ้น

สำหรับสถานการณ์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดีเซล (GAS OIL) ลดลง 5.63 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2565 ราคา GAS OIL อยู่ที่ 134.14 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และลดลงเป็น 128.51  เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา ด้วยปัจจัยหลัก ๆ จากสถานการณ์โควิดในจีนยังคงกดดันตลาดซึ่งวิตกจะมีมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดในหลายเมืองสำคัญ

รวมถึงเซี่ยงไฮ้ด้วย ทำให้ความต้องการใช้พลังงานลดลง ประกอบกับ หลังจากการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้มีมติปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย 0.5% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ส่งผลตลาดกังวลเศรษฐกิจชะลอตัว และความต้องการใช้น้ำมันปรับลดลง

นอกจากนี้ ในด้าน Supply ปริมาณการผลิตและส่งออกน้ำมันดิบของลิเบียมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากบริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบีย (NOC) ได้ประกาศกลับมาดำเนินการผลิตน้ำมันบางส่วน หลังจากที่ยกเลิกภาวะฉุกเฉิน (Force Majeure) ในแหล่งผลิตน้ำมันขนาดใหญ่หลายแห่ง เมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งคาดว่าจะทำให้แนวโน้มการผลิตปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 0.85 ล้านบาร์เรลต่อวัน

ทั้งนี้ มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2565 ได้ออกมาตรการลดค่าครองชีพให้กับประชาชนรอบใหม่ โดยในส่วนของราคาน้ำมันดีเซลมีมาตรการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลร้อยละ 50 ในส่วนที่ราคาขายสูงกว่า 35 บาทต่อลิตรเป็นเวลา 3 เดือน (กรกฎาคม – กันยายน 2565)

ส่วนประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปัจจุบัน วันที่ 24 กรกฎาคม 2565 ติดลบ 115,045 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 75,573 ล้านบาท และบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 39,472 ล้านบาท