ผู้ชมทั้งหมด 421
“พีระพันธุ์” เตรียม disrupt กฎหมาย กฎระเบียบที่ล้าหลัง ตั้งเป้าราคาพลังงาน ปี 2568 ต้องถูกและยั่งยืน
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ร่วมงานและให้เกียรติกล่าวปาฐกถาในงาน THE STATES TIMES 4th Anniversary “Thailand Outlook Global Disruption To Thailand Transformations” ณ SCBX NEXT TECH ชั้น 4 สยามพารากอน ในหัวข้อการเตรียมตัวรับมือการ disruption พลังงานไทย
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ในปัจจุบันการ disruptions เกิดขึ้นในทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือเอกชน การปรับตัวจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งในส่วนของพลังงานนั้น ที่ผ่านมา กระทรวงพลังงานไม่เคยมีกฎหมายที่เอื้อให้สามารถควบคุมดูแลด้านราคาได้อย่างทั่วถึง การเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จึงจะเป็นจุดเริ่มต้นที่เข้ามา disrupt กฎหมาย กฎระเบียบต่างๆ รวมทั้งการร่างกฎหมายใหม่ๆ ขึ้นมา เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด
โดยในส่วนของกฎหมายควบคุมกิจการการค้าน้ำมัน มีจุดประสงค์ให้กระทรวงพลังงานสามารถเข้าไปดูต้นทุนราคาน้ำมันจากผู้ค้าเพื่อให้มีการตั้งราคาน้ำมันขายปลีกที่เหมาะสม จะไม่มีการปรับราคาน้ำมันขึ้นลงเป็นรายวันเหมือนในปัจจุบัน เพื่อให้ประชาชนใช้น้ำมันในราคาที่เป็นธรรมมากที่สุด ส่วนการพิจารณาสัดส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพในน้ำมันซึ่งทำให้ต้นทุนและราคาขายปลีกน้ำมันสูงขึ้น ก็จะเตรียมแก้ปัญหาตรงนี้ ซึ่งกองทุนน้ำมันจะยกเลิกการชดเชยเชื้อเพลิงชีวภาพในอีก 2 ปีข้างหน้า หรือปี 2569 จึงจำเป็นต้องวางแผนร่างกฎหมายฉบับนี้ล่วงหน้าเพื่อไม่ให้ประชาชนเสียผลประโยชน์ นอกจากนั้น การร่างกฎหมายน้ำมัน SPR หรือ Strategic Petroleum Reserve ระบบสำรองน้ำมันและก๊าซเชิงยุทธศาสตร์ อยู่ระหว่างการเตรียมนำเข้ารัฐสภาในต้นปี 2568 ซึ่งหากดำเนินการสำเร็จก็จะเป็นการรื้อระบบกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จากที่เก็บเป็นเงิน ก็จะเก็บเป็นน้ำมันแทน ทำให้กระทรวงพลังงานไม่ต้องใช้งบประมาณในการซื้อน้ำมัน และทำให้สามารถบริหารจัดการด้านน้ำมันได้โดยไม่ต้องพึ่งพาภาคเอกชน
ส่วนสิ่งหนึ่งที่ใกล้สำเร็จแล้วคือ การสร้างชุดระบบผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ราคาประหยัดสำหรับประชาชน ตอนนี้อยู่ระหว่างการทดสอบมาตรฐานและความปลอดภัย หากดำเนินการแล้วเสร็จก็จะให้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ดำเนินการผลิตเพื่อจำหน่ายให้ประชาชน รวมทั้งจะประสานกับธนาคารและกองทุนอนุรักษ์พลังงานเพื่อดูแลในเรื่องดอกเบี้ย สำหรับประชาชนที่ต้องการกู้เงินเพื่อมาติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งก็ถือว่ากระทรวงพลังงานจะบริหารจัดการให้ครบทุกมิติเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถผลิตไฟฟ้าใช้เองได้
“ในปี 2568 ก็จะเป็นปีที่ผมต้องการจะ disrupt กฎหมาย กฎระเบียบต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคที่ทำให้ประชาชนต้องจ่ายค่าพลังงานในราคาที่สูง ผมจะทำทุกวิถีทางโดยคำนึงถึงประชาชนเป็นที่ตั้ง จะเร่งดำเนินนโยบาย “รื้อ ลด ปลด สร้าง” ที่ผมได้นำเสนอไว้ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่ง ผมเชื่อว่า ทุกมาตรการ ทุกนโยบายที่ได้เตรียมไว้ในปี 2568 นี้ จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้แก่ประชาชน ทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นต่อไป”