ผู้ชมทั้งหมด 1,263
ก.พลังงาน เกาะติดสถานการณ์ท่อส่งน้ำมันของ SPRC รั่วกลางทะเล อย่างใกล้ชิด แจงเบื้องต้นไม่กระทบการจัดหาน้ำมัน ยัน ไทยมีปริมาณน้ำมันดิบสำรองตามกฎหมาย ใช้ได้ 28 วัน พร้อมรับเหตุฉุกเฉิน
กรณีเกิดเหตุท่อน้ำมันดิบใต้ทะเลของ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC มีการรั่วไหลเมื่อช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 25 มกราคม 2565 บริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึก หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM) ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมือง ระยอง ซึ่งหลังเกิดเหตุ บริษัทฯ ได้ดำเนินการควบคุมสถานการณ์ทันที และดำเนินการสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วนนั้น
นายสมภพ พัฒนอริยางกูล โฆษกกระทรวงพลังงาน ระบุว่า กระทรวงฯ ได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และได้รับรายงานว่า ทางบริษัท SPRC ได้ดำเนินการใช้น้ำยาและอุปกรณ์เพื่อขจัดคราบน้ำมันอย่างเร่งด่วน รวมทั้งได้เร่งประสานหน่วยงานในพื้นที่ ได้แก่ ศูนย์เฝ้าระวังและควบคุมสิ่งแวดล้อม (EMCC), ศูนย์บัญชาการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉินและกระจายข่าว, ชุมชนกลุ่มประมงใกล้เคียง, ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ในการช่วยกันดำเนินการเพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด
“กระทรวงพลังงาน ได้ตรวจสอบกับบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง โดยบริษัทได้ชี้แจงว่ามีปริมาณน้ำมันดิบในทะเล 20,000 ลิตร ซึ่งกระทรวงพลังงานได้มอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงาน ติดตามสถานการณ์และตรวจสอบปริมาณน้ำมันสำรอง พบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่กระทบต่อการจัดหาน้ำมันเพื่อรองรับการใช้ของประเทศอย่างแน่นอน”
นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้พลังงานจังหวัดระยองติดตามสถานการณ์และประสานงานในพื้นที่ ซึ่งในภาพรวมประเทศไทยมีกำลังการกลั่นน้ำมันประมาณ 1.25 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในส่วนของโรงกลั่น SPRC มีกำลังการกลั่นประมาณ 175,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งการผลิตของโรงกลั่น SPRC ยังสามารถดำเนินการได้ และหากมีกรณีที่มีเหตุที่ไม่สามารถดำเนินการผลิตได้ ก็สามารถเพิ่มการผลิตของโรงกลั่นที่ไม่ได้รับผลกระทบ หรือ นำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปเข้ามาได้ โดยปริมาณน้ำมันดิบสำรองของประเทศสามารถใช้ได้ประมาณ 28 วัน ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป