ผู้ชมทั้งหมด 990
“พลังงาน” จ่อเสนอ กนป. เร็วๆนี้ ขอปรับลดสัดส่วนผสม B100 ในน้ำมันดีเซล เหลือ 2-3% จากเดิม 5% หวังลดภาระกองทุนน้ำมันฯ หลังราคาน้ำปาล์มยังแพง เหตุอินโดนีเซียห้ามส่งออก พร้อมเสนอ กบน.กลางเดือน พ.ค.นี้ ขยายกรอบวงเงินอุ้มราคา LPG อีก 3,000-5,000 ล้านบาท
แหล่งข่าวกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า เตรียมเสนอที่ประชุม คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.)ที่มีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในเร็วๆนี้ เพื่อขอปรับลดส่วนผสมน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์(B100) ในน้ำมันดีเซลลงอีกรอบ เหลือ 2-3% และจำหน่ายเป็นน้ำมันดีเซลB2 หรือ B3 แทน จากปัจจุบันจำหน่ายน้ำมันดีเซลทุกชนิดเป็น B5 เนื่องจากราคาน้ำมันB100 ปรับตัวสูงขึ้นมากถึง 56 บาทต่อลิตร หลังประเทศอินโดนีเซียประกาศห้ามส่งออกน้ำมันปาล์มทุกชนิดนับตั้งแต่ 28 เม.ย. 2565 ขณะที่ราคาน้ำมันดิบโลกยังทรงตัวระดับสูง
ที้งนี้ เพื่อให้ต้นทุนราคาดีเซลลดลง ซึ่งจะเป็นเพียงมาตรการระยะสั้น โดยการปรับลดสัดสวนการผสม B100 ในดีเซลดังกล่าว จะทำให้ราคาดีเซลถูกลงได้
“การลดสัดส่วนการผสม B100 ลงเพียง 1% จะทำให้ราคาน้ำมันดีเซลลดลงได้ 2-3 บาทต่อลิตร ดังนั้นถ้าลดจาก B5 เหลือB3 จะทำให้ราคาดีเซลลดลงได้ 4-6 บาทต่อลิตร จากปัจจุบันดีเซลทุกชนิดจำหน่ายอยู่ที่ราคา 31.94 บาทต่อลิตร ยกเว้นดีเซลเกรดพรีเมียม ราคาประมาณ 35-37 บาทต่อลิตร”
ส่วนการจะปรับลดสัดส่วนการผสม B100 เหลือเพียง 2-3% เพื่อจำหน่ายเป็นดีเซล B2 หรือ B3 ได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ จะพิจารณา
นอกจากนี้ ทางสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(สกนช.) ยังเตรียมเสนอคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(กบน.) ช่วงกลางเดือน พ.ค.นี้ พิจารณาขยายกรอบวงเงินบัญชี LPG สำหรับนำเงินมาดูแลราคาก๊าซหุงต้ม(LPG) เพิ่มเติมอีก 3,000-5,000 ล้านบาท เนื่องจากกรอบวงเงินเดิมกำหนดให้ใช้เงินดูแลราคา LPG ไม่เกิน 33,000 ล้านบาท แต่ปัจจุบันใช้เงินไป 32,776 ล้านบาทใกล้เต็มกรอบวงเงินดังกล่าวแล้ว
โดย สถานะกองทุนน้ำมันฯล่าสุด 1 พ.ค. 2565 กองทุนฯติดลบแตะระดับ 60,993 ล้านบาท โดยเกิดจากการติดลบของบัญชีน้ำมัน 28,217 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 32,7756 ล้านบาท ปัจจุบันกองทุนฯยังมีเงินหมุนเวียนที่ยังไม่ครบกำหนดชำระหนี้ 1.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งปกติจะต้องนำไปชำระให้กับผู้ค้ามาตรา 7 เดือนละ 7,000 ล้านบาท ดังนั้นเงินดังกล่าวยังสามารถหมุนเวียนมาดูแลราคาน้ำมันดีเซลและ LPG ต่อไปได้จนกว่าวงเงินกู้ 20,000 ล้านบาท จะเข้ามายังกองทุนฯประมาณเดือน มิ.ย. 2565 นี้
อย่างไรก็ตาม ในเดือน มิ.ย. 2565 ราคา LPG จะต้องปรับราคาขึ้นอีก 1 บาทต่อกิโลกรัม จากปัจจุบันราคา 348 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ก็จะขึ้นเป็น 363 บาท ซึ่งคาดว่าภาระกองทุนฯ ที่อุดหนุนราคา LPG จะลดลงเหลือประมาณ 11 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งจะเป็นเดือนสุดท้ายที่มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) ที่ผ่านมากำหนดให้ปรับราคา LPG ขึ้นเดือนละ 1 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่เดือนเม.ย. –พ.ค. –มิ.ย. 2565 จากนั้นทาง กบง.จะต้องมาหารือกันอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป