ผู้ชมทั้งหมด 186
สกนช. เผยสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ประเดิมปี 2568 ติดลบต่ำสุดรอบ 2 ปี อยู่ที่ 75,945 ล้านบาท หลัง กบน.หยุดชดเชยราคา
สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ประกาศฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ล่าสุดเมื่อ วันที่ 5 ม.ค. 2568 ติดลบรวม 75,945 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีน้ำมัน ติดลบ 29,009 ล้านบาท และบัญชีก๊าซหุงต้ม (LPG) ติดลบ 46,936 ล้านบาท นับเป็นวงเงินติดลบต่ำสุด นับตั้งแต่ปี 2566 ที่กองทุนฯ เคยติดลบรวม 78,680 ล้านบาท และสิ้นสุดปี 2567 กองทุนฯ ติดลบรวม 77,532 ล้านบาท
ทั้งนี้ เป็นผลมาจากกองทุนฯ ได้หยุดชดเชยราคาน้ำมันทุกชนิดลง ตั้งแต่เดือน ส.ค. 2567 และหันมาเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้น้ำมันทุกรายเพื่อส่งเข้ากองทุนฯ แทน ส่งผลให้ ล่าสุด กองทุนฯ มีเงินไหลเข้า 262.77 ล้านบาทต่อวัน หรือ กว่า 7,800 ล้านบาทต่อเดือน แต่ยังมีเงินไหลออกจากการชดเชยราคา LPG อยู่ที่ 45.59 ล้านบาทต่อวัน หรือ ไหลออก 1,367 ล้านบาทต่อเดือน
โดยล่าสุด คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2568 มีมติลดเก็บเงินผู้ใช้ดีเซล ส่งเข้ากองทุนฯ เหลือ 0.91 บาทต่อลิตร จากเดิมเก็บอยู่ 1.53 บาทต่อลิตร เนื่องจากราคาน้ำมันโลกปรับขึ้นในช่วงที่ผ่านมา และต้องการพยุงราคาดีเซลไม่ให้เกิน 33 บาทต่อลิตร ทำให้ ปัจจุบันราคาอยู่ที่ 32.94 บาทต่อลิตร ส่วนดีเซลเกรดพรีเมียม เรียกเก็บเงินเข้ากองทุนฯ 2.41 บาทต่อลิตร จากเดิมเก็บอยู่ 3.03 บาทต่อลิตร
ส่วนผู้ใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน ยังคงเรียกเก็บเท่าเดิม แบ่งเป็น ผู้ใช้น้ำมันเบนซิน ออกเทน 95 ส่งเข้ากองทุนฯ 10.68 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์95 และ 91 ส่งเข้าถึง 4.60 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ส่งเข้า 2.61 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ส่งเข้า 1.16 บาทต่อลิตร
ด้านสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) รายงาน ค่าการตลาดของผู้ค้าน้ำมัน ณ วันที่ 6 ม.ค. 2568 พบว่า ค่าการตลาดกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ ทรงตัวระดับสูง โดยน้ำมันเบนซินออกเทน 95 เรียกเก็บค่าการตลาด 4.35 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 มีค่าการตลาดที่ 3.06 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์91 อยู่ที่ 3.14 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 อยู่ที่ 3.74 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 อยู่ที่ 6.90 บาทต่อลิตร, ดีเซล อยู่ที่ 1.65 บาทต่อลิตร โดยเฉลี่ยค่าการตลาดระหว่าง 1-6 ม.ค. 2568 อยู่ที่ 2.11 บาทต่อลิตร (จากค่าการตลาดที่เหมาะสม 1.5-2 บาทต่อลิตร)