ปตท.เร่งจัดหาก๊าซฯชดเชย4โรงไฟฟ้าถ่านหินหยุดผลิตนอกแผน

ผู้ชมทั้งหมด 995 

ปตท. เร่งจัดหาก๊าซฯ ประมาณ 450 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันหนุนผลิตไฟฟ้าชดเชยโรงไฟฟ้าถ่านหิน 4 โรงหยุดผลิตนอกแผน ยันไม่กระทบเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า เนื่องจากจัดหา LNG ในสัญญาระยะยาวราคาประมาณ 6.5 – 7 เหรียญสหรัฐฯต่อล้านบีทียู ต่ำกว่าราคา Spot LNG

นายอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เปิดเผยว่า ปตท. ได้เร่งจัดหาก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ LNG ตามสัญญาระยะยาวที่มีอยู่ เพื่อรองรับความต้องการใช้ก๊าซฯ ที่เพิ่มมากขึ้นจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดและเหตุการณ์หยุดผลิตที่ไม่เป็นไปตามแผนของโรงไฟฟ้าถ่านหิน ทั้งในและต่างประเทศ จำนวน 4 โรง กำลังการผลิตรวม 2,750 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน, โรงไฟฟ้าบีแอลซีพี, โรงไฟฟ้าแม่เมาะ, รวมถึงโรงไฟฟ้าหงสา ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ตั้งอยู่ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และส่งกระแสไฟฟ้ามายังประเทศไทย ทั้งหมดได้ทยอยหยุดผลิตนอกแผนตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา

ประกอบกับความต้องการใช้ก๊าซฯ ในประเทศอยู่ในระดับสูงเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ปตท. จึงได้ประสานกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ให้พิจารณาถึงแผนการใช้ก๊าซฯ และเรียกรับก๊าซฯ เพิ่มเติมตามศักยภาพจากผู้ผลิตก๊าซฯ ในอ่าวไทยและเมียนมา พร้อมทั้งบริหารจัดการ LNG เพิ่มเติมจากสัญญาระยะยาวที่มีอยู่ เพื่อให้ปริมาณก๊าซฯ เพียงพอต่อความต้องการ ดังนั้นเพื่อรองรับความต้องการใช้ก๊าซฯ เพิ่มขึ้น ปตท.จึงมีความจำเป็นต้องเร่งจัดหาก๊าซธรรมชาติเพื่อผลิตไฟฟ้าทดแทน ประมาณ 450 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน

ทั้งนี้การจัดหา LNG เพิ่มเติมไม่เป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานต่อประเทศ เนื่องด้วยราคา LNG ในสัญญาระยะยาวอยู่ที่ประมาณ 6.5 – 7 เหรียญสหรัฐฯ ต่อล้านบีทียู ในขณะที่ราคา Spot LNG ปัจจุบัน อยู่ที่ประมาณ 8.5 – 10 เหรียญสหรัฐฯ ต่อล้านบีทียู 

“ปตท. ยังคงยึดมั่นหน้าที่ในการดูแลความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ จัดหาก๊าซธรรมชาติให้เพียงพอต่อความต้องการ ไม่ให้มีผลกระทบต่อพลังงานด้านการผลิตไฟฟ้า ด้วยราคาที่เหมาะสม” นายอธิคม กล่าว