ผู้ชมทั้งหมด 367
หากพูดถึงองค์กรยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของไทย คงไม่มีใครไม่รู้จัก “ปตท.” หรือ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT) บริษัทพลังงานแห่งชาติที่มีบทบาทสำคัญในการดูแลความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาเชื้อเพลิงเพื่อผลิตไฟฟ้า ก๊าซธรรมชาติ หรือ น้ำมัน เบื้องหลังความมั่นคงด้านพลังงานของไทยนั้นมาจากการขับเคลื่อนธุรกิจของกลุ่ม ปตท. ที่ครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศ ด้วยการลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานแบบครบวงจร ปตท. ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งพลังงานหลักเท่านั้น แต่ยังเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างรายได้เข้าสู่รัฐอย่างต่อเนื่อง
บทบาทของ ปตท. ในการพัฒนาเศรษฐกิจ
ปตท. มีหน้าที่สำคัญในการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศ โดยการจัดหาทรัพยากรพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งไม่เพียงแต่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศ แต่ยังสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมสำคัญๆ เช่น การผลิตสินค้า การขนส่ง และอุตสาหกรรมหนักต่าง ๆ ที่ต้องพึ่งพาพลังงาน ผลการดำเนินงานของ ปตท. ยังมีส่วนในการสร้างงานและพัฒนาทักษะของคนไทย ทำให้เกิดการพัฒนาในภาคอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจในภาพรวม
นอกจากนี้ การพัฒนานวัตกรรมในธุรกิจพลังงานของ ปตท. ยังช่วยส่งเสริมศักยภาพในการแข่งขันของประเทศไทยในตลาดโลก โดยธุรกิจการกลั่น การสำรวจ และการผลิตปิโตรเลียม ล้วนมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มรายได้และการเติบโตทางเศรษฐกิจ
บทบาทในการขับเคลื่อนตลาดทุนไทย
ปตท. มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างตลาดทุนของประเทศไทย เมื่อ ปตท. ตัดสินใจนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในหมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค ตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ปี 2544 จนถึงปัจจุบัน ปตท. ได้กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตามราคาตลาด (Market Cap) สูงสุดของตลาดหุ้นไทย ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 ปตท. มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดถึง 971,141.87 ล้านบาท ส่งผลให้ ปตท. เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีอิทธิพลในการสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นคงให้กับตลาดทุนของไทย
การสนับสนุนรายได้เข้าสู่รัฐ
ปตท. และบริษัทย่อยมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนรายได้ให้กับรัฐ โดยรายได้ที่ ปตท. นำส่งรัฐมีทั้งภาษี เงินปันผล และรายได้จากการดำเนินธุรกิจ นับตั้งแต่ปี 2544 จนถึงปัจจุบัน กลุ่ม ปตท. ได้นำส่งเงินรายได้เข้ารัฐรวมกว่า 1.27 ล้านล้านบาท ซึ่งตัวเลขนี้สะท้อนถึงบทบาทของ ปตท. ในการสร้างรายได้ให้กับประเทศที่ช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
สถิติรายได้ที่ ปตท. นำส่งรัฐ (ปี2562-2566)
จากข้อมูลย้อนหลัง 5 ปี พบว่า กลุ่ม ปตท. ได้นำส่งรายได้เข้ารัฐอย่างต่อเนื่อง ดังนี้
ปี 2566 กลุ่ม ปตท. นำส่งรายได้เข้ารัฐ รวมจำนวน 78,009 ล้านบาท
ปี 2565 กลุ่ม ปตท. นำส่งรายได้เข้ารัฐ รวมจำนวน 86,395 ล้านบาท
ปี 2564 กลุ่ม ปตท.ส่งเงินรายได้เข้ารัฐ รวมจำนวน 82,500 ล้านบาท
ปี 2563 กลุ่ม ปตท.ส่งเงินรายได้เข้ารัฐ รวมจำนวน 36,535 ล้านบาท
ปี 2562 กลุ่ม ปตท.ส่งเงินรายได้เข้ารัฐ รวมจำนวน 70,259 ล้านบาท
ขณะที่ ช่วงครึ่งแรกของปี 2567 กลุ่ม ปตท. ได้ส่งเงินเข้ารัฐรวม 35,684 ล้านบาท การนำส่งเงินนี้ช่วยให้รัฐมีงบประมาณเพิ่มเติมสำหรับการพัฒนาสาธารณูปโภค การศึกษา การแพทย์ และการช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ตั้งแต่ปี 2563 ปตท. ได้ช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชน ด้วยการสนับสนุนเงินกว่า 24,000 ล้านบาท เพื่อช่วยลดผลกระทบจากวิกฤตราคาพลังงาน
ผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2567
ในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ปตท. และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 64,437 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2566 ถึง 34.4% โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผลการดำเนินงานเติบโต คือ การดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพของธุรกิจการกลั่นน้ำมันและปิโตรเคมี รวมถึงธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่สามารถเพิ่มปริมาณการขายได้แม้ราคาขายเฉลี่ยจะลดลง ผลการดำเนินงานเหล่านี้ช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและการเติบโตของกลุ่ม ปตท. ในระดับสากล
ความยั่งยืนและการเติบโตในระดับโลก
ปตท. มุ่งสู่การเป็นองค์กรที่เติบโตอย่างยั่งยืนภายใต้วิสัยทัศน์ “TOGETHER FOR SUSTAINABLE THAILAND, SUSTAINABLE WORLD” โดยเน้นการขยายธุรกิจพลังงาน Hydrocarbon ที่ครองส่วนแบ่ง 92% ของรายได้ และการพัฒนาธุรกิจ Non-Hydrocarbon ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตและการปรับตัวในตลาดโลก
ปตท. ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่มีบทบาทสำคัญในด้านพลังงานและเศรษฐกิจของไทย ไม่เพียงแต่สร้างรายได้มหาศาลให้กับรัฐ แต่ยังเป็นแรงผลักดันหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ความมุ่งมั่นในการเติบโตอย่างยั่งยืนยังช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในตลาดโลก ทำให้ ปตท. เป็นองค์กรที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศไทยในหลายมิติ