ผู้ชมทั้งหมด 13,977
บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลายในระดับนานาชาติ ปั้นผู้บริหารรุ่นใหม่ สร้างความพร้อมเพื่อขยายการเติบโตตามกลยุทธ์ Greener & Smarter ผ่านการจัดโปรแกรม “การพัฒนาผู้นำธุรกิจระดับนานาชาติ” (International Business Leader Program: IBLP) รุ่นแรก โดยหน่วยงาน “Banpu Academy” ซึ่งมีผู้บริหารจากหน่วยธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้าร่วมการอบรมกว่า 30 คน จากประเทศยุทธศาสตร์ทางธุรกิจที่สำคัญ หนุนเสริมทัพทีมบริหารเพื่อการเดินเกมธุรกิจท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านองค์กรยุคดิจิทัล (Banpu Transformation) และการขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมายในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การผลักดันองค์กรให้เติบโตได้อย่างมั่นคงและต่อเนื่องได้นั้น การพัฒนาศักยภาพ ‘คนบ้านปู’ ไปพร้อมๆ กันจะเข้ามาเป็นส่วนเติมเต็ม และมีส่วนสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจหรือ Banpu Ecosystem ให้สมบูรณ์ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญที่บ้านปูยึดถือและดำเนินการมาตลอด 40 ปี นอกเหนือจากบทบาทการเป็น ‘ผู้นำด้านธุรกิจพลังงานที่หลากหลายในระดับนานาชาติ’ แล้ว บ้านปูยังเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization) ที่สั่งสมประสบการณ์และความเชี่ยวชาญไว้อย่างมากมายหลายแขนง จนกลายเป็นองค์ความรู้ที่ได้รับการบ่มเพาะและถ่ายทอดไปยังบุคลากรของเราอย่างต่อเนื่องรุ่นสู่รุ่น ผ่านการทำงานของหน่วยงาน ‘Banpu Academy’ เพื่อให้การส่งผ่านองค์ความรู้เหล่านี้ได้ถูกถ่ายทอดไปยังบุคลากร โดยเฉพาะ ‘ผู้นำรุ่นใหม่’ อย่างเป็นระบบ โดยปัจจุบันมีหลักสูตรพัฒนาผู้นำในแต่ละปีจำนวน 4 หลักสูตร สำหรับในปีนี้ บ้านปูจึงได้ริเริ่มโปรแกรม ‘การพัฒนาผู้นำธุรกิจระดับนานาชาติ’ (International Business Leader Program: IBLP) ขึ้น โดยคัดสรรผู้บริหารจากหน่วยธุรกิจของบ้านปูทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศมาเข้าร่วมการอบรมและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อเป็นการติดอาวุธให้กับผู้นำรุ่นใหม่ และเตรียมความพร้อมให้พวกเขาได้กลายเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความสำเร็จในอนาคต”
โปรแกรม ‘การพัฒนาผู้นำธุรกิจระดับนานาชาติ’ หรือ ‘IBLP’ เป็นโปรแกรมที่พัฒนาขึ้นจากการรวบรวม องค์ความรู้ที่บ้านปูสั่งสมมาอย่างยาวนาน ถ่ายทอดไปยังผู้นำรุ่นใหม่ โดยต่อยอดจากการพัฒนาซอฟต์สกิล (Soft Skill) ทั้งในการด้านการสร้างภาวะผู้นำ (Leadership) ตลอดจนการฝึกฝนและคอยให้คำปรึกษา (Coaching & Mentoring) สู่ความรู้ในธุรกิจพลังงานโดยใช้กรณีศึกษาที่เกิดขึ้นจริง (Business Case) ทั้งจากประสบการณ์ อุปสรรค และความสำเร็จที่เกิดขึ้นกับบ้านปูจากอดีตจนถึงปัจจุบัน อาทิ วิกฤตการณ์การเงินในเอเชีย หรือ ‘วิกฤตต้มยำกุ้ง ในปี 2540’ (Asian Financial Crisis) วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ (Hamburger Crisis) ความตกลงปารีส (Paris Agreement) สถานการณ์โควิด-19 และวิกฤตความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน (Ukraine Crisis)
โดยมีคณะกรรมการบริษัทฯ และผู้บริหารระดับสูงหลายคนเข้ามามีส่วนร่วมและให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด นอกจากจะทำให้ผู้บริหารรุ่นใหม่สามารถเรียนรู้และทำความเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับบ้านปูตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมา ยิ่งไปกว่านั้นกระบวนการเรียนรู้ในกรณีศึกษาจริงนี้ ยังช่วยให้พวกเขาเข้าใจอย่างลึกซึ้ง เพราะเรียนรู้จากการทำงานจริง สามารถเสนอกลยุทธ์หากตนต้องจัดการปัญหาและความท้าทายที่เกิดขึ้นจริงแล้วนั้น เพื่อเตรียมความพร้อมในการก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้บริหารในระดับที่สูงขึ้น และพร้อมขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งต่อไป
ทั้งนี้ บ้านปูมีความตั้งใจที่จะเป็นองค์กรซึ่งรวบรวมและบันทึกความรู้ที่มีความสำคัญทางธุรกิจไว้อย่างเป็นระบบ และส่งต่อความรู้นั้นถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด เพื่อให้บ้านปูไม่เป็นเพียงองค์กรธุรกิจ แต่ยังเป็นสถาบันที่บ่มเพาะความรู้และศักยภาพของคนบ้านปู อันสะท้อนให้เห็นว่าความสำเร็จตลอด 40 ปีที่ผ่านมาและในทศวรรษต่อๆ ไปของบ้านปูล้วนมี ‘คน’ เป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร บนภารกิจส่งมอบอนาคตพลังงานเพื่อความยั่งยืน และมีส่วนร่วมในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับผู้คนอย่างยั่งยืน (Power a Better Living for All)
นางสาวจรียา เชิดเกียรติศักดิ์ Head of Banpu Academy กล่าวว่า บ้านปู ได้สร้างสรรค์โปรแกรม IBLP ขึ้นเพื่อต่อยอดศักยภาพของผู้นำรุ่นใหม่ในองค์กรจากทุกหน่วยธุรกิจและในทุกประเทศที่บ้านปูเข้าไปดำเนินธุรกิจ เพื่อยกระดับภาวะผู้นำและเสริมทักษะที่จำเป็นในการบริหารงาน ตลอดจนเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในธุรกิจขององค์กร เพื่อให้ผู้บริหารรุ่นใหม่พร้อมเผชิญกับทุกความท้าทายในอนาคต ท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านขององค์กรในยุคดิจิทัล และช่วยกันผลักดันให้องค์กรเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยในปีนี้เป็นการจัดโปรแกรม IBLP รุ่นที่ 1 มีผู้บริหารรุ่นใหม่จากหน่วยธุรกิจใน 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา รวมกว่า 30 คน เข้าร่วมโปรแกรมตลอดระยะเวลา 9 เดือนเต็ม ซึ่งนอกจากจะได้รับการฝึกฝนและได้รับองค์ความรู้อย่างเข้มข้นแล้ว โปรแกรมนี้ยังช่วยส่งเสริมให้ผู้นำรุ่นใหม่เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกันผ่านวัฒนธรรมแบบ ‘พี่สอนน้อง’ ที่มีความใกล้ชิด รวมถึงสร้างคอมมูนิตี้แห่งการเรียนรู้ที่พร้อมจะแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ให้แก่กันและกันอีกด้วย