บอร์ด ปตท.ไฟเขียวงบลงทุน5ปีวงเงินรวม1.79แสนล้าน

ผู้ชมทั้งหมด 1,311 

บอร์ด ปตท.ไฟเขียว งบลงทุน 5 ปีวงเงินรวม 179,072 ล้านบาท มุ่งธุรกิจหลักก๊าซธรรมชาติ พร้อมตั้งงบลงทุนในอนาคต ในระยะ 5 ปีข้างหน้า อีก 331,524 ล้านบาท รองรับธุรกิจใหม่และพลังงานหมุนเวียน พร้อมมีมติกำหนดวันที่ 5 ม.ค. 64 กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นของ ปตท. ที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ OR

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด ปตท.) เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 63 ได้มีมติอนุมัติงบการลงทุน 5 ปี (ปี2564-2568) ของ ปตท. และบริษัทที่ ปตท. ถือหุ้น 100 % วงเงินรวม 179,072 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดดังนี้ ปี 2564 วงเงิน 76,399 ล้านบาท, ปี2565 วงเงิน 49,314 ล้านบาท ,ปี2566 วงเงิน 21,514 ล้านบาท ,ปี2567 วงเงิน 18,551 ล้านบาท และปี2578 วงเงิน 13,294 ล้านบาท

สำหรับในปี 2564 ภายใต้งบลงทุน 76,399 ล้านบาท แบ่งเป็น ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ 8,051 ล้านบาท,ธุรกิจท่อส่งก๊าซธรรมชาติ 6,770 ล้านบาท, ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศและธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย 630 ล้านบาท, ธุรกิจเทคโนโลยีและวิศวกรรมและสำนักงานใหญ่ 4,063 ล้านบาท และการลงทุนในบริษัทที่ ปตท.ถือหุ้น 100% วงเงิน 56,885 ล้านบาท

ทั้งนี้ ปตท. ยังคงมุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจหลัก (Core Businesses) ได้แก่  กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติทั้งใน ส่วนที่ ปตท. ดําเนินงานเอง (ธุรกิจก๊าซธรรมชาติและท่อส่งก๊าซธรรมชาติ) อาทิโรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 7 เพื่อทดแทนโรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 1 และโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบกเส้นที่ 5 รวมถึงลงทุนผ่านบริษัทที่ ปตท. ถือหุ้น100% (คิดเป็นสัดส่วนการลงทุนของงบการลงทุน 5 ปี ประมาณ70% ) ซึ่งประกอบด้วยการลงทุน ที่เกี่ยวเนื่องกับก๊าซธรรมชาติประมาณ 14% ของงบการลงทุน 5 ปี อาทิ การขยายขีดความสามารถของสถานีรับจ่าย ก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) แห่งที่ 2 (หนองแฟบ)และโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 การลงทุนในธุรกิจน้ำมันและธุรกิจค้าปลีกรวมถึงธุรกิจใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศประมาณ 42% ของงบการลงทุน 5 ปีและธุรกิจอื่นๆ ประมาณ 14% ของงบการลงทุน 5 ปี

นอกจากนี้ ปตท. ยังได้จัดเตรียมงบลงทุนในอนาคต (Provisional Capital Expenditure) ในระยะ 5 ปีข้างหน้า อีกจํานวน 331,524 ล้านบาท เพื่อการเติบโต และเสริมสร้างความร่วมมือภายในกลุ่ม ปตท. จากความเชี่ยวชาญของธุรกิจ เดิม อาทิเช่น โครงการ Southern LNG Terminal และท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาตามแผนพัฒนากําลังการผลิตไฟฟ้า (PDP2018) การขยายการลงทุนธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลวครบวงจร (LNG Value Chain) ทั้งในประเทศและ ต่างประเทศ และการเชื่อมต่อระหวางธุรกิจก๊าซธรรมชาติสู่ธุรกิจผลิตไฟฟ้า (Gas-to-Power)

ตลอดจนการลงทุนในธุรกิจ ที่มีศักยภาพการเติบโตตามการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นของวิถีชีวิตแบบใหม่และนิเวศทางเศรษฐกิจใหม่ (New Ecosystem Business Model) เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลและทิศทางของโลก อาทิห่วงโซ่ธุรกิจพลังงานไฟฟ้า (Electricity Value Chain)รวมถึงการมุ่งสู่ธุรกิจใหม่ในกลุ่ม Life science (ธุรกิจยาธุรกิจ Nutritionธุรกิจอุปกรณ์การแพทย์)  นอกจากนี้ ยังมีงบการลงทุนในอนาคตที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพลังงานหมุนเวียนหรือพลังงานสะอาด เพื่อให้กลุ่ม ปตท. บรรลุเป้าหมาย กําลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเป็น 8,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2573 ตามแผนยุทธศาสตร์ในการเป็นผู้นําด้านพลังงานหมุนเวียน

นายอรรถพล กล่าวถึงความคืบหน้าของการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ของบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ว่า ที่ประชุมบอร์ด ปตท.ได้มีมติกำหนดให้วันที่ 5 ม.ค. 64 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นของ ปตท. (Record Date) ที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ OR ที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก

โดย OR จะเสนอขายและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวนทั้งสิ้น 300 ล้านหุ้น ให้แก่ผู้ถือหุ้นของ ปตท.โดยจะเสนอขายและไม่จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ OR ให้แก่บุคคลหรือผู้จองซื้อรายใดหากการดำเนินการดังกล่าวทำให้ หรืออาจเป็นผลให้ (ก) OR มีหน้าที่จะต้องดำเนินการใดๆ ตามกฎหมายต่างประเทศนอกเหนือไปจากที่ต้องดำเนินการตามกฎหมายหรือกฎเกณฑ์ วิธีการ หรือเงื่อนไขที่กำหนดในการเสนอขายหรือจัดสรรหุ้น สำหรับอัตราการใช้สิทธิของผู้ถือหุ้นของ ปตท.ที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้น (Pre-emptive Ratio) เบื้องต้นจะอยู่ที่ประมาณ 95 หุ้นสามัญของ ปตท. ต่อ 1 หุ้นสามัญของ OR