ผู้ชมทั้งหมด 419
บอร์ดรฟท. ขอให้ทบทวนเพิ่มกรอบวงเงินรถไฟฟ้าสายสีแดง Missing Link อีก 400 ล้านบาท ชี้ต้องหารายละเอียดให้ชัดเจน พร้อมต้องยืนยันว่าไม่กระทบรถไฟไฮสปีดเชื่อมสามสนามบิน
นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า จาการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. เมื่อวันที่ 23 พ.ค.67 ที่ผ่านมาที่ประชุมมีมติให้ รฟท. กลับไปทบทวนเรื่องการปรับกรอบวงเงินโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน (รถไฟฟ้าสายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน และสายสีแดงเข้ม ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง (Missing Link) เนื่องจากมีการขอย้ายตำแหน่งสถานีราชวิถี จากเดิมตั้งอยู่ฝั่งบ้านราชวิถี เปลี่ยนมาเป็นอยู่ฝั่งโรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อให้เกิดความสะดวกในการเดินเชื่อมต่อไปยังโรงพยาบาลง่ายขึ้น
ดังนั้นขอให้ไปดูรายละเอียด หลักการและเหตุผลการย้ายที่ชัดเจนว่ามีประโยชน์อย่างไร รวมถึงไม่มีผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับโครงการใดๆ โดยเฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) เชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) เพราะไม่ต้องการให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง จากนั้นให้นำกลับมาเสนอให้บอร์ด รฟท. พิจารณาในการประชุมเดือน มิ.ย.นี้
อย่างไรก็ตามจาการย้ายที่ตั้งสถานีราชวิถีดังกล่าวส่งผลให้กรอบวงเงินค่างานโครงการฯเพิ่มขึ้นกว่า 400 ล้านบาท จากเดิมที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบไว้เมื่อปี 59 วงเงินประมาณ 4.41 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้รถไฟฟ้าสายสีแดง แบ่งเป็น 2 สายคือ สายสีแดงอ่อน (East-West) ช่วงศาลายา ตลิ่งชัน บางซื่อ และหัวหมาก และสายสีแดงเข้ม (North-South) ช่วงรังสิต บางซื่อ และหัวลำโพง
นายอนันต์ กล่าวว่า ในส่วนประเด็นปัญหาแนวเส้นทาง Missing Link ที่กังวลว่ามีความทับซ้อนกับโครงการรถไฟไฮสปีดเชื่อมสามสนามบิน และจะเกิดปัญหาการแย่งผู้โดยสารกันหรือไม่นั้น ไม่น่ามีปัญหา เพราะสถานีที่เป็นจุดจอดไม่ได้อยู่จุดเดียวกัน โดยรถไฟไฮสปีดเชื่อมสามสนามบินมาจากสถานีอู่ตะเภา และจอดที่สถานีพญาไท ก่อนมุ่งหน้าไปยังสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ไม่มีสถานีจอดที่สถานีราชวิถี ดังนั้นผู้โดยสารรถไฟไฮสปีดฯที่ต้องการมาแถวโรงพยาบาลรามาธิบดี ต้องลงที่สถานีพญาไท และต่อรถไฟฟ้าสายสีแดงมา จึงถือว่าไม่ได้แย่งผู้โดยสารกัน