ผู้ชมทั้งหมด 10,471
บอร์ดกทพ.ตีกลับด่วนกะทู้-ป่าตอง ให้กทพ.ทบทวนการลงทุนใหม่ ไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน สรุปเสนอบอร์ดใหม่ภายใน 1 เดือน คาดเสนอครม.พิจารณาได้ช่วงปลายปีหรือต้นปี 67
นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด กทพ.ว่า ที่ประชุมมีมติให้กทพ.กลับไปพิจารณาทบทวนข้อดีข้อเสียในการลงทุนโครงการทางพิเศษ (ด่วน) สายกะทู้-ป่าตอง จ.ภูเก็ต ระยะทาง 3.98 กิโลเมตร (กม.) โดยให้ไปพิจารณาเรื่องกรอบนโยบายการดำเนินงาน สถานะขององค์กรว่ามีเงินเพียงพอที่จะลงทุนหรือไม่ และแหล่งเงินทุนต่างๆ เช่น การกู้เงน การออกพันธบัตร หรือการใช้เงินรายได้ของ กทพ. รวมถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และให้ได้ข้อสรุปภายใน 1 เดือน ก่อนนำเสนอที่ประชุมบอร์ด กทพ.พิจารณาในการประชุมเดือนพ.ย.นี้ จากนั้นให้นำเสนอกลับไปยังกระทรวงคมนาคม ก่อนนำเสนอครม.พิจารณาในช่วงปลายปีนี้หรืออย่างช้าเดือนม.ค.67 เพื่อขอปรับแนวทางการลงทุนที่เหมาะสมต่อไป
นายสรพงศ์ กล่าวอีกว่า โครงการทางพิเศษ (ด่วน) สายกะทู้-ป่าตอง จะเชื่อมต่อกับโครงการทางพิเศษเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ ระยะทาง 30 กม. หากการลงุทนเป็นภาคเอกชนคนละรายอาจจะเกิดปัญหาเกี่ยวกับค่าแรกเข้าค่าผ่านทางที่ซ้ำซ้อนกันได้ ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ดังนั้นเป็นไปได้หรือใหม่ที่ กทพ.จะเป็นผู้ลงทุนเอง ซึ่งปัจจุบัน กทพ.มีกำไรสุทธิประมาณปีละ7-8 พันล้านบาท ดังนั้นหากจะนำมาจ่ายเป็นค่าก่อสร้างงานโยธาปีละประมาณ 2 พันล้านบาทเป็นเวลา 4 ปีก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องกู้เงินจากที่ใดเลย และทรัพย์สินก็จะตกเป็นของ กทพ.ด้วย
นายสรพงศ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมากทพ.ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือบ้างแล้ว ทั้ง สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคงแห่ชาติ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายภาครัฐ (สคร.) และสำนักงบประมาณ ซึ่งเรื่องนี้โดยส่วนตัวเห็นว่าควรดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะหากปล่อยเรื่องให้ช้าไป กรอบวงเงินลงทุนจะเพิ่มขึ้น ซึ่งเวลานี้ค่าเวนคืนของโครงการอยู่ที่ประมาณ 5 พันล้านบาท แต่หากนานกว่านี้ราคาจะเพิ่มขึ้นและกรอบวงเงินลงุทนก็จะเพิ่มตามไปด้วย