ผู้ชมทั้งหมด 70
นายกฯ เปิดโครงการบ้านเพื่อคนไทย นำร่อง 4 โครงการ 5,000 ยูนิต คาดภายใน 3 เดือนเริ่มก่อสร้างเฟสแรก เปิดให้เข้าอยู่ได้กลางปี 69 พร้อมขยายโครงการตามหัวเมืองใหญ่ ปักหมุด 3 แสนยูนิตภายในปี 70
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวภายในงานเป็นประธานพิธีเปิดการเข้าชมตัวอย่างห้อง และเปิดให้ประชาชนแสดงความประสงค์เข้าร่วมโครงการบ้านเพื่อคนไทย โดยระบุว่า จากแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี (2560-2579) พบว่า จำนวนครัวเรือนในประเทศไทย 21.32 ล้านครัวเรือน มีคนไทยถึง 27.5% หรือ 5.87 ล้านครัวเรือนที่ยังไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง แต่สถานการณ์ปัจจุบันบ้านที่มีคุณภาพสูงในทำเลที่ดีมีราคาค่อนข้างแพง และใช้ต้องเงินดาวน์จนทำให้ความฝันที่จะมีบ้านเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะคนที่เพิ่งเริ่มทำงาน หรือ First Jobber
ดังนั้นรัฐบาลจึงได้ทำโครงการ “บ้านเพื่อคนไทย” สร้างที่อยู่อาศัยทั้งรูปแบบบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม โดยไม่ต้องมีเงินดาวน์ ผ่อนรายเดือนไม่สูง และมีคุณภาพดี เป้าหมายเพื่อทำให้คนไทยทุกคนเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้มีบ้านของตัวเอง และลดความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้น
“เราจะใช้พื้นที่ของภาครัฐที่ปล่อยรกร้าง มาสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนให้มากที่สุด ทุกพื้นที่ในโครงการ ฯ จะใช้พื้นที่ทำเลดี มีโอกาสในการพัฒนาด้านคมนาคม เดินทางสะดวกปลอดภัย ยกระดับคุณภาพชีวิต เพราะบ้านคือความมั่นคง คือความอบอุ่นทางจิตใจ คือที่พักพิงให้กับสมาชิกในครอบครัว บ้านเพื่อคนไทยคือคำสัญญาอย่างเป็นรูปธรรมว่า รัฐบาลจะทำให้คนไทย มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี และในอนาคตโครงการบ้านเพื่อคนไทย จะเกิดขึ้นทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย รัฐบาลจะมุ่งมั่นที่จะทำให้คนไทย เข้าถึงที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น” นางสาวแพทองธาร กล่าว
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ตามยุทธศาสตร์และนโยบายของรัฐบาล ซึ่งได้กำหนดยุทธศาสตร์ด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการที่ดินของรัฐ สนับสนุนให้ประชาชนเข้าถึงสิทธิที่ดิน ที่อยู่อาศัย เพิ่มมากขึ้น เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน ซึ่งกระทรวงคมนาคม ในฐานะหน่วยงานหลักที่ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ด้านการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน และสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ได้ขับเคลื่อนภารกิจให้สอดรับกับยุทธศาสตร์การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการที่ดินของรัฐ สนับสนุนให้เข้าถึงสิทธิการอยู่อาศัยของรัฐบาลได้อย่างเป็นรูปธรรม
สำหรับโครงการบ้านเพื่อคนไทยนั้น บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) บริษัทที่จัดตั้งขึ้นภายใต้กิจการของ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะเป็นผู้นำพัฒนาและบริหารโครงการ โดยรูปแบบโครงการนั้นเป็นโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยในพื้นที่รอบสถานีรถไฟ และที่ดินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของการ รฟท. ให้เช่าสิทธิ์การอยู่อาศัยระยะยาว
โดยจะเปิดดำเนินโครงการนำร่อง 4 พื้นที่ ได้แก่ บางซื่อ กม.11 ขนาดพื้นที่ 14 ไร่ 2 งาน, ธนบุรี ขนาดพื้นที่ 23 ไร่,เชียงราก ขนาดพื้นที่ 6 ไร่ 3 งาน , เชียงใหม่ มีขนาดพื้นที่ 7 ไร่ 1 งาน โดยในพื้นที่บางซื่อ กม.11 นั้น เริ่มต้นจะมีประมาณ 1,700 ห้อง คาดว่าจะมีประมาณ 5 อาคาร รวมประมาณ เกือบ 10,000 ห้อง โดยเป้าหมายรัฐบาลก่อนหมดวาระพรรคเพื่อไทยในปี 2570 จะให้มีการสร้างบ้านเพื่อคนไทยจำนวน 300,000 ยูนิต
สำหรับในการเช่าซื้อจะมีสัญญาเช่าคราวละ 30 ปี ต่อสัญญาเช่า 1 ครั้ง รวมเป็น 60 ปี เมื่อรัฐบาลแก้ไขกฎหมายให้สัญญาเช่ามีอายุเช่าได้คราวละ 99 ปี บริษัทฯ ก็จะดำเนินการแก้ไขสัญญาเช่าบ้านพร้อมที่ดินให้กับประชาชนผู้เช่าให้มีอายุเช่าคราวละ 99 ปี
นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า การลงทุนพัฒนาโครงการบ้านเพื่อคนไทย ภายหลังจากที่ได้เปิดโครงการในวันนี้ (17 ม.ค.) คาดว่าไม่เกิน 3 เดือนก็จะทราบผลว่ามีจำนวนที่ได้สิทธิ์กี่ราย หลังจากนั้นก็จะส่งข้อมูลทั้งหมดให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส. ตรวจสอบคุณสมบัติ เมื่อได้ผู้ผ่านคุณสมบัติแล้วหากจำนวนเกินก็จะให้สำนักงานกองสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการจับสลาก เพื่อให้ได้ผู้ที่ได้รับสิทธิ์
ทั้งนี้หลังจากที่ทราบผลก็สามารถเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ทันที ทั้ง 4 แห่งเริ่มดำเนินการก่อสร้างพร้อมกันเฟสแรก 5,000 ยูนิต แต่ที่คาดว่าจะเสร็จก่อน คือ ที่จังหวัดเชียงใหม่ เพราะเป็นบ้านเดี่ยว 35 หลัง ส่วนในพื้นที่บางซื่อ กม.11, ธนบุรี ,เชียงราก คาดจะใช้ระยะเวลาในดำเนินการก่อสร้าง 1 ปีครึ่ง เปิดให้ผู้ที่ได้สิทธิ์เข้าอยู่ได้ประมาณกลางปี 2569
สำหรับโครงการบ้านเพื่อคนไทย มีรูปแบบโครงการที่พักอาศัย ในระยะแรก 2 ประเภท ได้แก่ 1.คอนโดมิเนียม แบ่งเป็น ห้องพัก 30 ตร.ม. (1 ห้องนอน), ห้องพัก 40 ตร.ม. (2 ห้องนอน), ห้องพัก 45 ตร.ม. (2 ห้องนอน) และห้องพัก 51 ตร.ม. (2 ห้องนอน) 2.บ้านเดี่ยว 1 ชั้น ขนาด 50 ตร.ม. บนที่ดิน 50 ตร.ว. สำหรับราคาคอนโดมิเนียมเริ่มต้นที่ 1.2 ล้านบาท สูงสุดไม่เกิน 1.8 ล้านบาท
ทั้งนี้เมื่อดำเนินการในพื้นที่ทั้ง 4 แห่งแล้วเสร็จก็จะขยายไปตามพื้นที่ของรฟท. ที่มีศักยภาพทั้งที่อยู่ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดที่เป็นหัวเมืองใหญ่ อาทิเช่น ขอนแก่น นครราชสีมา อุดรธานี อุบลราชธานี นครสวรรค์ พิษณุโลก พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา กาญจนบุรี เป็นต้น
สำหรับประชาชนที่ได้รับสิทธิ์สามารถกู้เงินจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส. และนำเงินมาชำระค่าที่อยู่อาศัยให้กับ SRTA โดยมีระยะเวลาการผ่อนชำระเงินคืนให้กับ ธอส. มีกำหนดระยะเวลา 30-40 ปี โดยไม่ต้องมีเงินดาวน์ และผ่อนชำระเริ่มต้นเพียง 4,000 บาทต่อเดือน
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถศึกษาเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการ ฯ และข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.บ้านเพื่อคนไทย.th หรือ Line : @baanpheukonthai รวมถึงสามารถติดตามข่าวสารผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ของภาครัฐ และของโครงการบ้านเพื่อคนไทย นอกจากนี้ ยังสามารถชมตัวอย่างห้องได้ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ตั้งแต่วันที่ 17 – 31 มกราคม 2568 ในเวลา 10.00 – 21.00 น. โดยไม่เว้นวันหยุดราชการ หลังจากนั้นจะปรับวันและเวลาเข้าชม ให้มีความเหมาะสมกับปริมาณผู้เข้าชมในแต่ละวัน ในลำดับต่อไป
คุณสมบัติของผู้ซื้อสิทธิ
• เป็นผู้มีสัญชาติไทย
• เป็นผู้บรรลุนิติภาวะ ณ วันลงทะเบียน
• เป็นผู้ที่มีรายได้ ณ วันลงทะเบียน ไม่เกิน 50,000 บาท/เดือน
• ไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในอาคาร หรือสิ่งปลูกสร้างที่อาจใช้พักอาศัยทุกประเภท
• ไม่เคยได้สิทธิ ในโครงการบ้านเพื่อคนไทย