ผู้ชมทั้งหมด 67
นายกฯ มอบ “พีระพันธุ์” คุมราคาพลังงานปี68 ปรับลดลงยกแผง พร้อมกำหนดราคา “พลังงานสะอาด” ต้องแข่งขันได้ หวังดึงดูดต่างชาติลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ ลุยส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า(EV)
วันนี้(12 ธ.ค.2567) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ได้แถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลรอบ 90 วัน และมอบนโยบายการบริหารราชการแผ่นดิน ภายใต้ชื่อ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง” รวมถึงกรอบการทำงานของรัฐบาล และโครงการที่เป็นเรือธงของรัฐบาลที่จะทำในปี 2568 โดยเนื้อหาส่วนหนึ่ง ระบุถึง เรื่องพลังงาน ค่าไฟ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายที่ซ้อนอยู่มาก เช่น ท่อก๊าซฯ บางทีจ่ายค่าเสื่อมหมดไปแล้ว ก็ยังถูกคิดราคาบวกอยู่ แล้วก็เรื่องสาธารณะต่างๆที่ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ แต่ว่าก็ยังกลายเป็นต้นทุนของประชาชนอยู่ เรื่องนี้จะต้องถูกจัดการ
ดังนั้น ค่าพลังงานในปีหน้าทั้งหมดจะต้องลดลงอย่างแน่นอน ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องฝากให้ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน รับไปดำเนินการในรายละเอียดต่อ
นอกจากนี้ เรื่องการลงทุนธุรกิจแห่งอนาคต ประเทศไทยจะต้องเป็น “เอไอฮับของภูมิภาค” ซึ่งปัจจุบัน รัฐบาลได้ดึงดูดการลงทุนใหญ่ๆจากต่างชาติเข้ามา เช่น google , Microsoft และอื่นๆอีกมาก ทำให้ทั่วโลกเห็นว่าไทยพร้อมที่จะเตรียมตัวสำหรับธุรกิจแห่งอนาคต แต่ไทยก็ยังมีข้อจำกัดบางเรื่องที่ต้องดูแลและแก้ไข หรือ พัฒนาขึ้น เช่น เรื่องของคนที่ยังไม่มีความรู้ที่มากพอในการทำธุรกิจนี้
เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในอนาคตอันใกล้นี้ จะมีบทบาทสำคัญมากขึ้นต่อคนทุกวัย ยิ่งมีดาต้ามากขึ้น AI ก็จะยิ่งฉลาดมากขึ้น และจะช่วยเรื่องของกำแพงของภาษาไม่ว่าจะเป็นคนประเทศไหนก็สามารถสื่อสารกันได้ เมื่อมี AI ก็สามารถช่วยคิด วิเคราะห์ข้อมูลต่างๆได้ และสร้างโอกาสใหม่ๆให้กับพี่น้องประชาชน ทั้ง เกษตรกร นักศึกษา และอื่นๆ ก็จะมีโอกาสที่มากขึ้นถ้าใช้ AI เป็น
ฉะนั้น รัฐบาลก็จะลงทุนเพิ่มในส่วนของธุรกิจแห่งอนาคต ไม่ว่าจะเป็น AI หรือ ยานยนต์ไฟฟ้า(EV) การผลิตอุปกรณ์รถEV แม้ว่าประเทศไทยจะเริ่มต้นช้าในเรื่องนี้ แต่ไม่สายเกินไป โดยจะเริ่มสร้างคนเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัย และตั้งเป้าหมายผลิตคน 2.8 แสนคนใน 5 ปี เพื่อให้ประเทศไทยพร้อมต่อธุรกิจแห่งอนาคต
โดยขอมอบหมาย 2 รองนายก คือ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ดูแลในเรื่องนี้ เนื่องจากการเดินทางไปพูดคุยเรื่องของ AI กับประเทศต่างๆ มักจะฝากถึงเรื่องของ “พลังงานสีเขียว” (Green Energy) หรือพลังงานสะอาด ที่นอกจากประหยัดพลังงานแล้ว การดูแลต้นทุนราคาพลังงาน ต้องอยู่ในระดับที่แข่งขันได้ เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติเข้าสู่ประเทศไทย
