ผู้ชมทั้งหมด 224
“ทางหลวง” ตัดจบไม่ขยายสัมปทานดอนเมืองโทลล์เวย์แลกปรับลดค่าผ่านทาง ชี้ผลศึกษาไม่คุ้มค่าทุกมิติ ปล่อยให้ขึ้นราคาตามสัญญา ตั้งแต่ 22 ธ.ค. 67 พร้อมเจรจาเอกชนจัดโปรโมชั้นส่วนลดให้ผู้ใช้ทางลดภาระคาใช้จ่าย
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ ดอนเมืองโทลล์เวย์ ผู้ให้บริการทางยกระดับอุตราภิมุข ช่วงดินแดง-ดอนเมือง-อนุสรณ์สถาน ประกาศว่าในวันที่ 22 ธ.ค. 2567 เวลา 00.01 น. จะปรับขึ้นอัตราค่าผ่านทางตามสัญญาสัมปทาน 5-10บาท นั้น นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบหมายให้ทล.ไปปศึกษาแนวทางในการปรับลดค่าผ่านทางดอนเมืองโทลล์เวย์ เพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อนและลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน
ดังนั้นทล.จึงตั้งคณะทำงานขึ้นเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2567 เพื่อศึกษาในทุกมิติ โดยนำตัวเลขที่เกี่ยวข้องมาพิจารณาในทุกๆกรณี ทั้งการไม่ปรับขึ้นค่าผ่านทางแลกกับการขยายเวลาสัมปทานที่เหมาะสมควรเป็นกี่ปี หรือกรณีปรับขึ้นค่าผ่านทางตามสัญญาสัมปทานว่าจะส่งผลต่อการใช้บริการของประชาชนอย่างไร โดยได้ข้อสรุปที่ชัดเจนแล้วหลังจากได้พิจารณารอบด้านจากตัวเลขต่างๆ ก็มีความเห็นว่ายังไม่ควรปรับลดค่าผ่านทางแลกกับการขยายสัมปทานให้เอกชน เนื่องจากไม่มีความคุ้มค่า ซึ่งทล.ได้ส่งรายงานสรุปผลการศึกษาไปยังกระทรวงคมนาคมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว โดยที่ยังไม่มีการเจรจากับเอกชนแต่อย่างใด
นายสราวุธ กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันสำนักเฝ้าระวังและประเมินสภาวการณ์ทุจริต สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) ได้ทำหนังสือมาถึงอธิบดีกรมทางหลวงเพื่อขอรับทราบข้อเท็จจริงกรณีกระแสการขยายเวลาสัมปทานดอนเมืองโทลล์เวย์ แลกกับการปรับลดค่าผ่านทาง ซึ่งทล.จึงทำหนังสือชี้แจงข้อมูลดังกล่าว พร้อมผลสรุปการศึกษาของคณะทำงานฯส่งไปให้ ป.ป.ช.ด้วย
“จากผลการศึกษาของคณะทำงานสรุปว่า การปรับลดค่าผ่านทางดอนเมืองโทล์ลเวย์ แลกกับการขยายสัมปทานไม่คุ้มค่าในทุกรณี ดังนั้นทล.จะปล่อยให้ดอนเมืองโทล์ลเวย์ ปรับขึ้นอัตราค่าผ่านทาง 5-10 บาท ตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค.67 เป็นต้นไปตามสัญญาสัมปทานที่กำหนด และจะมีการปรับขึ้นค่าผ่านทางอีกครั้งในเดือน ธ.ค.72 ก่อนจะสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในปี 77” นายสราวุธ กล่าวและว่า เบื้องต้นเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของประชาชนกรณีที่ดอนเมืองโทล์ลเวย์ ปรับขึ้นอัตราค่าผ่านทางนั้น ทางทล.จะเจรจากับเอกชนเพื่อให้จัดโปรโมชั่น หรือคูปองส่วนลดค่าผ่านทาง เช่นเดียวกันกับเมื่อครั้งที่มีการปรับขึ้นค่าผ่านทางเมื่อปี 62
นายสราวุธ กล่าวอีกว่า เมื่อสัญญาสัมปทานระหว่าง ทล.กับดอนเมืองโทล์ลเวย์ สิ้นสุดลงในปี 77 ทรัพย์สินทั้งหมดจะตกเป็นของทล. และตามพ.ร.บ.ร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ระบุว่า ก่อนหมดสัญญา 5 ปีหน่วยงานเจ้าของโครงการจะต้องทำการศึกษาแนวทางการบริหารโครงการว่าจะดำเนินการอย่างไร โดยทล.วางแผนว่าในปี 72 จะดำเนินการศึกษาแนวทางการดำเนินงาน เช่น การเปิดประมูลใหม่ หรือการเจรจากับเอกชนผู้รับสัมปทานรายเดิม หรือ ทล.จะเป็นผู้ดำเนินการบริหารเอง ซึ่งในสัญญาฯ ไม่ได้มีการระบุว่าต้องมีการเจรจาให้สิทธิ์กับผู้รับสัมปทานรายเดิม คือบริษัท ทางยกระดับดอนเมืองฯ เป็นรายแรก(First Right)
อย่างไรก็ตามหากทล.บริหารเอง ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลในช่วงเวลานั้นๆ ว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งอาจจะเก็บค่าผ่านทางในอัตรา 20 บาทตลอดเส้นทาง หรือไม่เก็บเลยปล่อยให้ขึ้นฟรีก็ได้ แต่หากไม่เก็บต้องมีเงินมาซ่อมบำรุงทางทุกปี ซึ่งปัจจุบัน ทล.ก็ใช้งบประมาณจากรัฐในการซ่อมบำรุงทางอยู่แล้ว ทั้งนี้ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการโทล์ลเวย์ประมาณ 4-5 หมื่นคันต่อวัน