ผู้ชมทั้งหมด 382
AOT คาดผู้โดยสารช่วงสงกรานต์ใช้บริการผ่านท่าอากาศยาน 6 แห่งกว่า 1 ล้านคน เพิ่มขึ้น 103.07%มีเที่ยวบินประมาณ 9,310 เที่ยวบิน พร้อมเน้นย้ำถือปฏิบัติตามมาตรการ VUCA ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 เริ่มคลี่คลายลง ประกอบกับรัฐบาลได้มีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมและป้องกันโรค รวมถึงผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเข้าราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 โดยยกเลิกการตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทางเข้าประเทศ ส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารรวมของ AOT เพิ่มขึ้น
โดยในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2565 อาจได้เห็นภาพบรรยากาศการเดินทางที่คึกคักของประชาชนมากขึ้นจากปีก่อน โดย AOT คาดปริมาณการจราจรทางอากาศผู้โดยสารเดินทางผ่านท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) จะมีเที่ยวบินประมาณ 9,310 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 14.48% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นเที่ยวบินภายในประเทศประมาณ 6,820 เที่ยวบิน ลดลง 2.79% และเที่ยวบินระหว่างประเทศประมาณ 2,490 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 123.14% โดยคาดว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการประมาณ 1 ล้านคน เพิ่มขึ้น 103.07% แบ่งเป็นผู้โดยสารภายในประเทศประมาณ 843,220 คน เพิ่มขึ้น 62.08% และผู้โดยสารระหว่างประเทศประมาณ 238,800 คน เพิ่มขึ้น 1,798.07%
อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาจากประมาณการปริมาณการจราจรทางอากาศในช่วงเทศกาลสงกรานต์ มีตัวเลขที่น่าสนใจคือเที่ยวบินและผู้โดยสารระหว่างประเทศที่ ทสภ. ทดม. และ ทภก.มีปริมาณที่เพิ่มสูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยทสภ.คาดว่าจะมีเที่ยวบินระหว่างประเทศประมาณ 1,790 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 70.52% และมีผู้โดยสารระหว่างประเทศประมาณ 160,300 คน เพิ่มขึ้น 1,179.37% ส่วน ทดม.มีเที่ยวบินระหว่างประเทศประมาณ 270 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 396.30% มีผู้โดยสารระหว่างประเทศประมาณ 25,770 คน เพิ่มขึ้น 122,595.24% ด้าน ทภก.มีเที่ยวบินระหว่างประเทศประมาณ 400 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 2,984.62% และมีผู้โดยสารระหว่างประเทศประมาณ 48,400 คน เพิ่มขึ้น 156,048.39%
อย่างไรก็ตามในช่วงวันที่ 1 – 7 เมษายน 2565 ที่ผ่านมาผู้โดยสารเดินทางผ่านท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT นั้นมีจำนวนผู้โดยสาร 894,756 คน หรือเฉลี่ย 127,822 คนต่อวัน เมื่อเทียบกับจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยต่อวันของเดือนมีนาคม 2565 จำนวน 107,194 คน เพิ่มขึ้น 19.24% โดยแบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 202,280 คน หรือเฉลี่ย 28,897 คนต่อวัน เพิ่มขึ้น 39.66% และผู้โดยสารภายในประเทศ 692,476 คน หรือเฉลี่ย 98,925 คนต่อวัน เพิ่มขึ้น 14.36%
ขณะที่มีเที่ยวบินทั้งหมด 8,245 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ย 1,178 เที่ยวบินต่อวัน เมื่อเทียบกับจำนวนเที่ยวบินเฉลี่ยต่อวันของเดือนมีนาคม 2565 จำนวน 1,050 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 12.20% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ จำนวน 2,432 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ย 347 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้น 5.54% และเที่ยวบินภายในประเทศ 5,813 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ย 830 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้น 15.24%
ส่วนการเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร โดยเฉพาะในด้านมาตรการป้องกันและติดตามเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 AOT ได้กำชับเจ้าหน้าที่และขอความร่วมมือผู้ใช้บริการให้ปฏิบัติตามมาตรการ VUCA ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ได้แก่ (1) Vaccine ฉีดครบ ลดป่วยหนัก (2) Universal Prevention ป้องกันตนเองตลอดเวลา สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง (3) Covid Free Setting Area, District, Community สถานที่บริการพร้อม ผู้ให้บริการฉีดวัคซีนครบ ตรวจ ATK ทุกสัปดาห์ และ (4) Antigen Test Kit (ATK) พร้อมตรวจเสมอเมื่อใกล้ชิดคนติดเชื้อ หรือมีอาการทางเดินหายใจ นอกจากนั้น AOT ยังได้จัดพนักงาน และแม่บ้านทำความสะอาดแบบ Deep Cleaning บริเวณจุดสัมผัสต่างๆ เพื่อลดความเสี่ยงจากการสัมผัสร่วมกัน
นอกจากนี้ยังได้ได้นำระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง (Common Use Passenger Processing Systems : CUPPS) มาให้บริการผู้โดยสารในกระบวนการพิธีการผู้โดยสารขาออก ณ สนามบินทั้ง 6 แห่งของ AOT ซึ่งขณะนี้ได้มีการเริ่มใช้งานบางระบบแล้ว ได้แก่ เครื่อง CUSS (Common Use Self Service) สำหรับเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ และเครื่อง CUBD (Common Use Bag Drop) สำหรับโหลดกระเป๋าสัมภาระด้วยตนเอง ทำให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกรวดเร็ว ลดระยะเวลาในการรอคิวเช็กอิน และลดความหนาแน่นบริเวณเคาน์เตอร์เช็กอิน
พร้อมกันนี้ AOT ได้ติดตามด้านการข่าวกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเฝ้าระวัง ประเมินสถานการณ์ และแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน ซึ่งจะทำให้สามารถเตรียมพร้อมรับมือและตอบสนองสถานการณ์ได้ทันท่วงที และในด้านมาตรการรักษาความปลอดภัย AOT ได้เพิ่มความถี่ในการตระเวนตรวจพื้นที่และรักษาความปลอดภัยคู่ไปกับการตรวจตราผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) อย่างเข้มงวดตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้ง ทสภ.ยังได้ยกเว้นค่าบริการจอดรถยนต์ที่ลานจอดรถระยะยาวโซน C ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2565 พร้อมจัดรถ Shuttle Bus สาย A ให้บริการรับ – ส่งผู้โดยสารทุกๆ 15 นาที ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง และ ทภก.ได้จัดที่จอดรถยนต์ฟรี ณ อาคาร X-Terminal ระหว่างวันที่ 13 – 18 เมษายน 2565