ผู้ชมทั้งหมด 517
“คีรี” ระบุบีทีเอสยังไม่ตัดสินใจยื่นซองประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มวันนี้ หวั่นขัดคำพิพากษาสินศาลปกครองกลาง รู้สึกทีโออาร์ผิดแปลกไปจากมติครม. พร้อมจี้รัฐสางปมสายสีเขียว เร่งกรุงเทพธนาคมจ่ายหนี้
นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เปิดเผยว่า การเปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ในวันที่ 27 ก.ค. 2565 ตนไม่แน่ในว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะดำเนินการเปิดรับซองข้อเสนอได้หรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ศาลปกครองกลางได้ตัดสินชี้ขาดเรื่องการยกเลิกประกวดราคาในครั้งก่อนเป็นการประพฤติมิชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้นหมายความว่าการประมูลในครั้งแรกถูกต้องอยู่ และจะมีการเปิดประมูลรอบใหม่ได้หรือไม่
ทั้งนี้บีทีเอสเป็นบริษัทเอกชนที่ดำเนินธุรกิจรถไฟฟ้ามาอย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่ามีความพร้อมในการลงทุนในโครงการรถไฟฟ้า และในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาบริษัทก็ได้ลงทุนโครงการรถไฟฟ้า ทั้งสายสีชมพู สายสีเหลือง และสายสีทอง รวมมูลค่ามากกว่า 1.2 แสนล้านบาท อีกทั้งในขณะนี้บริษัทยังจะลงทุนในโครงการท่าอากาศยานอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกอีก 5 แสนล้านบาท ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มบีทีเอสจะยื่นซองประมูลหรือไม่ยังไม่ตัดสินใจ
อย่างไรก็ตามบีทีเอส เป็นบริษัทที่ร่วมลงทุนในระบบรถไฟฟ้าเป็นเจ้าแรกของไทย เป็นธุรกิจหลักของบีทีเอส บริหารโครงการระยะทางที่ยาวที่สุด และมีผู้โดยสารต่อวันมากที่สุด ซึ่งบีทีเอสพร้อมในการลงทุนรถไฟฟ้าอยู่แล้ว หากดำเนินตามกติกาที่ถูกต้อง ส่วนการกำหนดรายละเอียดเงื่อนไขการประมูล (ทีโออาร์) รถไฟฟ้าสายสีส้มใหม่ รู้สึกว่าทีโออาร์ค่อนข้างผิดแปลกไปจากมติของคณะรัฐมนตรี (ครม.)
ส่วนกรณีรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่มีข้อสงสัยในสัญญาร่วมลงทุน ตนยืนยันว่าที่ผ่านมาบีทีเอสไม่เคยเรียกร้องการต่อสัญญาสัมปทาน และไม่เคยขอสัมปทานจากรัฐ โดยที่ผ่านมามี 2 สัญญาที่ทำร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) คือสัญญาติดตั้งระบบ และสัญญาให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง (O&M) เมื่อรัฐบาลอยากให้เอกชนเข้าไปมีส่วนร่วมบีทีเอสก็ดำเนินการตามระเบียบเอกชนร่วมลงทุนรัฐ และสัญญานี้ก็มีมา 10 ปีแล้ว ดังนั้นจึงไม่แน่ใจว่ามีข้อผิดพลาดตรงไหน
“สัญญาเดินรถพวกนี้มีมา 10 ปีแล้วก็ไม่ผิดพลาดอะไร วันนี้เพิ่งมมามีข้อสงสัย แต่ผมยืนดีและเคารพการตัดสินใจของภาครัฐ ตอนนี้ให้เวลาทาง กทม.ได้ตรวจสอบรายละเอียดก่อน ส่วนต้องการจะเปิดเผยสัญญานั้น ผมก็มองว่าถ้าจะเปิดควรเปิดทุกสัญญาที่มีกับเอกชน เพราะเงื่อนไขไม่เปิดเผยสัญญามันเป็นเงื่อนไขปกติที่กำหนดไว้ในสัญญาร่วมทุน”
ส่วนเรื่องค่าจ้างติดตั้งระบบเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว การจ้างเดินรถและซ่อมบำรุง ที่ทางบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด หรือ KT ค้างชำระหนี้อยู่ 40,000 ล้านบาทนั้นบีทีเอสก็ต้องการให้มีการชำระหนี้โดยเร็ว เพราะไม่มีใครในโลกนี้ที่ติดตั้งระบบฯ และเดินรถให้โดยออกเงินให้ก่อน แล้วเก็บเงินทีหลัง ปัจจุบันล่วงเลยมา 2-3 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้เงินค่าจ้างเลย อย่างไรก็ตามจากการหารือร่วมกับ KT ทำความเข้าใจกัน และก็ต้องให้เวลาซึ่งกันและกันก่อน เพราะเป็นทีมมาใหม่ก็ต้องศึกษาข้อมูลก่อน
“เรื่องงนี้มันไม่ควรยืดเยื้อ คุยกันมาก็ 3 ปีแล้ว เอายังไงก็ขอให้บอกเรา เพราะเชื่อว่าตอนนี้มันเป็นแค่การเข้าในผิดกัน ก็เพียงแค่มาทำความเข้าใจกันให้ถูก ซึ่งการพูดคุยกับ กทม.ในรอบแรก ก็เป็นไปด้วยดี ผมเชื่อว่าทุกการพูดคุยกันมีเรื่องดีๆ อยู่แล้ว และบีทีเอสยืนยันว่าผมจะไม่หยุดเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว เพราะจะไปกระทบกับประชาชน”