ผู้ชมทั้งหมด 265
คมนาคม ชงครม.เคาะโปรเจ็คท่าเทียบเรือครุยส์ เกาะสมุย ภายในสิ้นปีนี้ มูลค่า 1.2 หมื่นล้าน คาดเริ่มสร้างปี 72 เปิดให้บริการปี 75 คาดช่วยให้เกิดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจตลอดอายุโครงการประมาณ 4.6 หมื่นล้าน
เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ณ บริเวณแหลมหินคม อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ ติดตามโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือสำราญขนาดใหญ่ (Cruise Terminal) โดยมีนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคม เข้าร่วมด้วย
นางมนพร กล่าวว่า กรมเจ้าท่าได้ดำเนินโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือสำราญขนาดใหญ่ (Cruise Terminal) ซึ่งเป็นการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในปัจจุบันที่มุ่งเน้นวางแผนพัฒนาท่าเรือรองรับเรือสำราญขนาดใหญ่ เพื่อรองรับนโยบายสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเกาะสมุย โดยการท่องเที่ยวด้วยเรือสำราญเป็นอีกรูปแบบที่ได้รับความนิยมและมีอัตราการเติบโตสูง
สำหรับโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือสำราญขนาดใหญ่ (Cruise Terminal) เป็นการลงทุนแบบให้เอกชนร่วมทุนในกิจการของรัฐ ( PPP ) เพื่อเพิ่มศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยเรือสำราญขนาดใหญ่ การยกระดับการท่องเที่ยวเรือสำราญในประเทศไทย และส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างงานและเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน จากผลการศึกษาโครงการของกระทรวงคมนาคม โครงการฯ มีขนาดพื้นที่รวมประมาณ 47 ไร่ 1. พื้นที่บนชายฝั่ง มีขนาดพื้นที่รวม 15 ไร่
2. พื้นที่นอกชายฝั่ง มีพื้นที่รวม 32 ไร่ มูลค่าการลงทุนค่าใช้จ่ายตลอดระยะเวลาโครงการ รวม 12,172 ล้านบาท โดยแยกเป็นค่าใช้จ่ายในการลงทุน 6,414.41 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา 5,757.19 ล้านบาท มีระยะเวลาโครงการฯ ตั้งแต่ พ.ศ. 2568 – 2604 (โดยขั้นตอนและระยะเวลาการเสนอโครงการปี 2567 – 2570 ก่อสร้างปี 2572-2574 และให้บริการ 30 ปี ตั้งแต่ ปี 2575-2604) ทั้งนี้คาดว่าจำนวน นักท่องเที่ยวที่ใช้บริการหลังเปิดให้บริการจะเพิ่มขึ้นจาก จำนวน 200,000 ถึง 400,000 คนต่อปี รองรับเรือ Cruise 240 เที่ยวเรือต่อปี สร้างรายได้มากกว่า 8,500 ล้านบาทตลอดอายุโครงการ
การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งทางน้ำในจังหวัดสุราษฎร์ฯ และโครงการก่อสร้างท่าเรือสำราญขนาดใหญ่ (Cruise Terminal) หากดูจากตัวเลขสถิติเรือสำราญที่เข้ามาในประเทศ พร้อมสอบถามถึงความต้องการของประชาชนชาวสมุยกับผู้ที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับความต้องการที่่จะให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในเกาะสมุยเพิ่มขึ้นหรือไม่ และไม่มีประเด็นอะไรที่จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้รับคำตอบว่าผู้นำท้องถิ่น ผู้ประกอบการ และประชาชน ต่างยินดีและสนับสนุนที่จะให้มีโครงการ Cruise Terminal เกิดขึ้น โดยเชื่อว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้กับประชาชนเกาะสมุยได้มากขึ้น
ขณะที่ในด้านสิ่งแวดล้อม และสังคม จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเข้าถึง ไม่มีพื้นที่อ่อนไหว และไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชน ส่วนด้านเศรษฐศาสตร์ เป็นพื้นที่มีศักยภาพเชิงพาณิชย์และมีความพร้อมด้านสาธารณูปโภค ต้นทุนและค่าใช้จ่ายของโครงการตลอดระยะเวลา 37 ปี มีความคุ้มค่าในการลงทุนด้านเศรษฐกิจ โดยมีผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจตลอดอายุโครงการประมาณ 46,000 ล้านบาท และมีอัตราผลตอบแทนทางเศรษฐศาสตร์มากกว่า 15%
ทั้งนี้ จท.ได้วิเคราะห์แล้วเห็นว่า การร่วมลงทุนในรูปแบบ PPP Net Cost มีความเหมาะสม และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อภาครัฐ โดยมีเอกชนเป็นเจ้าของรายได้และเป็นผู้รับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นทั้งหมด โดยสำหรับความคืบหน้าของโครงการในปัจจุบัน กรมเจ้าท่า ได้ส่งหลักการการร่วมทุนและรายละเอียดผลการศึกษาโครงการ ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) พิจารณา เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2567 โดยคาดว่า สคร.จะสามารถพิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนเสนอ ครม อนุมัติโครงการต่อไป และ เริ่มก่อสร้างได้ในปี 2572 และเปิดให้บริการในปี 2575