ผู้ชมทั้งหมด 787
คมนาคมชงครม.เคาะวงเงินก่อสร้างมอเตอร์เวย์บางปะอิน–โคราชเพิ่มอีก 6,755 ล้านบาทภายในเดือนก.ย.นี้ ก่อนเดินหน้าก่อสร้างที่เหลืออีก 16 ตอนให้แล้วเสร็จตามแผน และเปิดบริการเต็มรูปแบบตลอดสายช่วงต้นปี 68
ฝ่ายประชาสัมพันธ์กรมทางหลวง (ทล.) แจ้งว่า ขณะนี้โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางปะอิน–สระบุรี–นครราชสีมา ระยะทาง 196 กิโลเมตร(กม.) วงเงิน 84,600 ล้านบาท ได้ก่อสร้างงานโยธาแล้วเสร็จ 24 ตอนจากทั้งหมด 40 ตอน เหลือ 16 ตอน ยังก่อสร้างไม่เสร็จ มีปัญหาอุปสรรคจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงแบบก่อสร้างตามสัญญาให้เหมาะสม ทำให้มีค่างานเพิ่มขึ้นประมาณ 6,755 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในกรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบเมื่อปี 2558 โดยสามารถสรุปประเด็นปัญหาหลักในภาพรวมของโครงการ ได้เป็น 4 กรณี ดังนี้
1.สภาพพื้นที่จริงที่เริ่มทำการก่อสร้างในปี 2560 ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่เคยสำรวจออกแบบไว้ตั้งแต่ปี 2551
2.ได้ปรับปรุงรูปแบบทางวิศวกรรมให้สอดคล้องกับสภาพทางกายภาพ และ สภาพชั้นดินทางธรณีวิทยา ของพื้นที่ก่อสร้างในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดความแข็งแรงของตัวโครงสร้างของมอเตอร์เวย์ และประชาชนเดินทางใช้งานได้อย่างปลอดภัย
3.ปรับรูปแบบให้เหมาะสมสอดคล้องกับโครงสร้างงานสาธารณูปโภค ต่างๆ ข้อจำกัด เงื่อนไข หรือความจำเป็นของหน่วยงานอื่น ที่มอเตอร์เวย์ตัดผ่าน เช่น การยกระดับความสูงเพิ่มขึ้นมอเตอร์เวย์ส่วนที่ข้ามคลองชลประทาน หรือการสร้างกำแพงครอบมอเตอร์เวย์ในช่วงที่ผ่านเรือนจำกลางคลองไผ่ อ.สีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา เป็นต้น
4. การปรับรูปแบบการก่อสร้าง เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อข้อร้องเรียนของประชาชนในพื้นที่ และให้สอดคล้องกับโครงข่ายถนนที่ประชาชนใช้ทางในปัจจุบัน เช่น การก่อสร้างทางขนานตามแนวมอเตอร์เวย์ในบางช่วง หรือก่อสร้างทางลอดเพิ่มขึ้น เพื่อให้ประชาชนสามารถเดินทางเข้าออกพื้นที่ได้สะดวก
ทั้งนี้ปัจจุบันทล.ได้มีหนังสือเสนอต่อกระทรวงคมนาคม และสำนักงบประมาณ เพื่อพิจารณารายละเอียด ขออนุมัติเพิ่มวงเงินงบประมาณและขยายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณเพิ่มเติม โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสาย บางปะอิน – สระบุรี – นครราชสีมา จำนวน 16 ตอน คาดว่ากระทรวงคมนาคมจะนำเสนอเข้าที่ประชุมครม. เพื่อขออนุมัติวงเงินค่าก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น ในเดือนก.ย นี้ และเมื่อได้รับอนุมัติวงเงินเพิ่มเติม ทล.จะวางแผนเร่งรัดงานก่อสร้างในส่วนที่เหลือให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ในเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเริ่มเปิดใช้งานบางส่วนได้ภายในปลายปี66 และจะทยอยเปิดให้บริการฟรี พร้อมทดสอบระบบการเก็บเงินค่าผ่านทางในปี 67 และเปิดบริการเต็มรูปแบบตลอดสายช่วงต้นปี 68 ต่อไป