คมนาคมชดเชยวันนั่งรถไฟฟ้าสายสีชมพูฟรี ลั่นไม่ให้ประชาชนเสียประโยชน์

ผู้ชมทั้งหมด 536 

คมนาคมชดเชยวันนั่งรถไฟฟ้าสายสีชมพูฟรี ลั่นไม่ให้ประชาชนเสียประโยชน์ ยืดเวลาเก็บค่าโดยสารจากเดิม 3 ม.ค.67 ออกไปก่อน ย้ำเป็นอุบัติเหตุสุดวิสัย เตรียมออกมาตรการคุมเข้มโครงการก่อสร้าง พร้อมแก้กฎหมายให้รัดกุมมากขึ้น

เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. ที่กระทรวงคมนาคม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม พร้อมด้วยนางมนพร เจริญศรี และนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม ร่วมแถลงข่าวชี้แจงกรณีปัญหารางจ่ายไฟฟ้าของรถไฟฟ้าสายสีชมพูหลุดร่วง โดยมีนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่  บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) บีทีเอสซี  และ ผู้บริหารระดับสูงคมนาคมเข้าร่วมด้วย

นายสุริยะ กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุตนและนายสุรพงษ์ ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยสันนิษฐานว่า เป็นผลจากการดึงเข็มพืดเหล็ก (sheet pile) ของโครงการระบบสาธารณูปโภคบริเวณด้านล่างของโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ออกตามขั้นตอนก่อสร้างเมื่องานแล้วเสร็จ ซึ่งอาจมีเหตุการณ์ที่ทำให้ระดับของรางนำไฟฟ้าไม่อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ส่งผลให้เมื่อมีตัวรับกระแสไฟฟ้า (Collector Shoe) ที่ติดกับตัวรถตรวจความพร้อมของเส้นทาง (รถไฟฟ้าหมายเลข PM40) ซึ่งกำลังเคลื่อนที่ ไปกระแทกส่งผลให้เกิดการขยับตัวของ รางนำไฟฟ้า (Conductor Rail) ออกจากจุดยึดแล้วร่วงลงมาด้านล่างบนถนนบางส่วน (ประมาณ 300 เมตร) และส่วนใหญ่ติดค้างอยู่บนโครงสร้าง ระหว่างสถานีแคราย (PK02) ถึงสถานี (PK05) ระยะทางรวมประมาณ 4.3 กม.  นอกจากนี้ ยังพบว่า มีรอยไหม้จากประกายไฟที่เกิดจากการลัดวงจร (Short Circuit) 1 จุดบริเวณคานทางวิ่ง เหนือสถานที่ก่อสร้างโครงการระบบสาธารณูปโภคดังกล่าว (ใกล้ปากซอยติวานนท์ 34) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการซ่อมบำรุงและติดตั้งรางนำไฟฟ้า แต่ขอให้มั่นใจว่าระบบเดินรถมีความปลอดภัย

ด้านนายสุรพงษ์ กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นอุบัติเหตุ ที่เกิดจากความประมาทเลินเล่อไม่ใช่ความสะเพร่า แต่เป็นเหตุสุดวิสัยจากการรื้อถอนโครงการก่อสร้าง เพื่อเคลียร์พื้นที่และคืนผิวจราจร ซึ่งถือว่าป็นบทเรียนที่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายโดยเฉพาะทางการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) และกรมการขนส่งทางราง (ขร.) จะต้องช่วยกันดูแล และออกมาตรการควบคุมไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก

ดังนั้นจึงขอฝากสื่อไปถึงประชาชนว่าไม่อยากให้เข้าใจคลาดเคลื่อน เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุไม่ได้เป็นความไม่พร้อมหรือไม่สมบูรณ์ของระบบ ขอให้มั่นใจในความปลอดภัย และจากนี้ไปกระทรวงคมนาคมจะมีมาตรการป้องกัน โดยออกเป็นแอคชั่นแพลนว่าหากจะมีการเข้าไปดำเนินการในพื้นที่ต้องมีการแจ้งล่วงหน้า และต้องมีผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายครบ เพื่อตรวจสอบร่วมกันในการส่งมอบงานและส่งคืนพื้นที่  หากองค์ประกอบไม่ครบต้องไม่ตรวจรับงานอย่างเด็ดขาด ส่วนมาตรการเชิงลึก จะประชุมหารือร่วมกัน เพื่อแก้ไขกฎระเบียบในบางเรื่องให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น

นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนกรณีที่มีการตั้งคำถามว่ามีการเร่งรัดการก่อสร้างเพื่อให้เปิดบริการเร็วขึ้นจึงเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้นั้นขอชี้แจงว่าสาเหตุไม่ได้เกิดจากการเร่งรัดงาน และยืนยันว่า ระบบเดินรถไม่มีปัญหา มีการทดลองมาแล้วหลายเดือนกว่าจะเปิดให้ประชาชนทดลองนั่ง ที่สำคัญก่อน 1 ชั่วโมงที่ขบวนรถจะออกให้บริการจะมีรถตรวจรางตรวจสอบความพร้อมก่อนอยู่แล้วจึงขอให้ประชาชนมั่นใจในความปลอดภัย อย่างไรก็ตามขณะนี้อยู่ระหว่างการซ่อมบำรุงรางจ่ายไฟฟ้าที่เสียหาย และจะกลับมาเปิดให้บริการเร็วที่สุด แต่ขอให้มั่นใจว่าประชาชนจะยังได้ทดลองนั่งรถไฟฟ้าสายสีชมพูฟรีตามจำนวนวันที่แจ้งไว้แล้วอย่างแน่นอน

“สิ่งที่ทางรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมได้รับปากกับประชาชนว่ามีสิทธิ์ได้นั่งรถไฟฟ้าสายสีชมพูฟรีเป็นเวลากี่วันก็ยังคงเป็นไปตามเดิม และขอยืนยันว่าประชาชนจะไม่เสียประโยชน์อย่างแน่นอน โดยจะมีการชดเชยจำนวนวันให้บริการฟรีตามที่หายไป โดยผมรับปากจะไปเจราจรกับผู้รับสัมปทานให้ชดเชยในสิ่งที่ประชาชนควรได้รับ เพื่อช่วยปกป้องประโยชน์ของประชาชนอย่างดีที่สุด”นายสุรพงษ์ กล่าวและว่า ส่วนกรณีที่จะมีการเริ่มจัดเก็บค่าโดยสารในวันที่ 3 ธ.ค.67 นั้นคงต้องเลื่อนออกไปก่อน และจะจัดเก็บเมื่อไหร่ขอหารือกับเอกชนผู้รับสัมปทานอีกครั้ง ที่สำคัญขร. จะตรวจสอบความปลอดภัยและความพร้อมก่อนเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ด้วย

ด้าน นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่  บีทีเอสซี ผู้รับสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีชมพู กล่าวว่า ระบบราง ของรถไฟฟ้าสายสีชมพู เป็นไปตามมาตรฐานสากลโลก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ขัดข้องของระบบรางแต่อย่างใด เบื้องต้นประเมินว่าจะใช้เวลาประมาณ 7 วันในการซ่อมบำรุงและติดตั้งรางนำไฟฟ้า ซึ่งเวลานี้อยู่ระหว่างการจัดหาอะไหล่ที่จะนำมาซ่อมบำรุง โดยพยายามติดต่อกับบริษัทในต่างประเทศทั่วโลก ซึ่งต้องใช้อะไหล่ตัวยึดรางจ่ายไฟฟ้าจำนวน 1,700 ตัว แต่มีสำรองอยู่แค่หลักร้อยเท่านั้น คาดว่าอย่างช้าคงได้หลังปีใหม่ เนื่องจากช่วงนี้เป้นเทศกาลหยุดยาวแล้ว หากได้มาก็จะดำเนินการซ่อมบำรุงโดยเร็วที่สุด ส่วนการจัดเก็บค่าโดยสารที่จะเริ่มวันที่ 3 ธ.ค.67 นั้น หากยังซ่อมบำรุงไม่แล้วเสร็จก็จะหารือกับรฟม.และกระทรวงคมนาคม เพื่อพิจารณาต่อไป

อย่างไรก็ตามโดยปกติแล้วการควบคุมงานก่อสร้างนั้น รฟม.จะเข้มงวดอย่างมาก หากมีการเข้ามาทำงานใกล้พื้นที่ระบบราง ต้องทำแผนความปลอดภัยทั้งหมด ซึ่งครั้งนี้อยู่ระหว่างการทดสอบและทำงานร่วมกันหลายฝ่ายก็อาจมีพลาดไปบ้าง แต่หลังจากนี้ไป บีทีเอส รฟม.จะคุมเข้มไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก

สำหรับการให้บริการในปัจจุบันของรถไฟฟ้าสายสีชมพู (ช่วงระหว่างทดลองเดินรถไฟฟ้า) จะให้บริการเวลา 06.00 – 24.00 น. จำนวน 23 สถานี  จากสถานีแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 28 ถึง สถานีมีนบุรี (PK08-PK30) ผู้โดยสารที่จะเดินทาง ระหว่างสถานีแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 28 และ สถานีมีนบุรี กรุณาเปลี่ยนขบวนรถที่สถานีโทรคมนาคมแห่งชาติ (PK13) มีขบวนรถไฟฟ้าให้บริการในช่วงเวลาเร่งด่วน ทุก 5 นาที และหลังช่วงเวลาเร่งด่วนทุก 10 นาที โดยยังแจ้งปิดให้บริการสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี ถึงสถานีเลี่ยงเมืองปากเกร็ด (PK01-PK07) เป็นการชั่วคราวจนกกว่าการซ่อมบำรุงจะแล้วเสร็จ