ข่าวดี! “กบน.” ลดราคาน้ำมัน “เบนซิน-ดีเซล” 1 บาท/ลิตร มอบของขวัญช่วงสงกรานต์

ผู้ชมทั้งหมด 323 

มติ “กบน.” ปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง กดราคาขายปลีก “เบนซิน และดีเซล” ลง 1 บาท/ลิตร แบ่งลด 2 ครั้ง ครั้งละ 50 สตางค์ ช่วยลดค่าครองชีพประชาชน รองรับเดินทางกลับภูมิลำเนา ท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์ หลังราคาน้ำมันตลาดโลกมีทิศทางอ่อนตัว ส่งผลดีต่อฐานะกองทุนฯ ลั่นจ่อตรึงราคา LPG ถัง 15 กิโลกรัม อยู่ที่ 423 บาท ต่อ หลังสิ้นสุดมาตรการ 31 มี.ค.2568 พร้อมเร่งหาวิธีลดค่าไฟงวด(พ.ค.-ส.ค.2568) ให้ต่ำกว่า 4.15 บาทต่อหน่วย

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(กบน.) วันที่ 24 มี.ค.2568 โดยระบุว่า ที่ประชุม กบน. ได้ประชุมเพื่อกำหนดแนวทางดูแลราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศให้สอดรับกับสถานการณ์ และความเหมาะสม โดยพิจารณาจากแนวโน้มราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับลดลง และสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่เริ่มมีรายรับเพิ่มขึ้น ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบให้ปรับอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลงสำหรับกลุ่มน้ำมันเบนซิน และน้ำมันดีเซล ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันลดลงรวม 1 บาทต่อลิตร ซึ่งการปรับลดราคาดังกล่าวจะดำเนินการเป็น 2 ระยะ ครั้งละ 50 สตางค์ต่อลิตร ได้แก่ ครั้งที่ 1 วันที่ 28 มีนาคม 2568 และครั้งที่ 2 วันที่ 4 เมษายน 2568 เพื่อให้เกิดผลกระทบเชิงบวกต่อประชาชน

“การปรับลดอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจากน้ำมันเบนซิน-ดีเซล ครั้งนี้ เพื่อเป็นของขวัญให้ประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2568 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการเดินทางเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ที่ใช้น้ำมัน โดยเฉพาะกลุ่มดีเซล คิดเป็น 2 ใน 3 ของปริมาณการใช้น้ำมันทั้งหมด เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนในการเดินทางกลับภูมิลำเนา และเป็นการส่งเสริมสถาบันครอบครัว กระตุ้นการเดินทาง เพื่อการท่องเที่ยวในประเทศช่วงเทศกาลสงกรานต์”

สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) รายงานถึงสถานการณ์ และฐานะของกองทุนน้ำมันฯ ในช่วงต้นปี (มกราคม 2568 – วันที่ 23 มีนาคม 2568) พบว่า ฐานะกองทุนน้ำมันฯ มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยด้านราคาน้ำมันดิบดูไบช่วงที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 80 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายรับเฉลี่ยกว่า 8,000 ล้านบาท/เดือน ทำให้ฐานะกองทุนน้ำมันฯ จากเดิมเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2568 กองทุนฯ ติดลบอยู่ที่ 75,945 ล้านบาท (บัญชีน้ำมันติดลบ 29,009 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 46,936 ล้านบาท) ปัจจุบันสถานะกองทุนน้ำมันฯ ปรับลดลงเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2568เหลือติดลบ 60,052 ล้านบาท (บัญชีน้ำมันติดลบ14,063 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 45,989 ล้านบาท)

“กบน.ยืนยันความมุ่งมั่นในการรักษาเสถียรภาพราคาพลังงานให้กับประชาชน ขอให้ประชาชนมั่นใจว่ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะยังคงทำหน้าที่ดูแลราคาพลังงานให้เหมาะสมและเป็นธรรม พร้อมมุ่งมั่นดำเนินงานภายใต้หลักการ “เปิดเผย โปร่งใส และตรวจสอบได้” เพื่อประโยชน์ของประชาชน และทุกภาคส่วน”

ส่วนการดูแลราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว(LPG) ที่จะสิ้นสุดมาตรการตรึงราคาถัง 15 กิโลกรัม อยู่ที่ 423 บาทต่อถังในวันที่ 31 มี.ค.2568 นั้น คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) เตรียมประชุมในช่วงปลายเดือนมี.ค.นี้ หรือ ต้นเดือนเม.ย.นี้ เพื่อพิจารณามาตรการดังกล่าว เบื้องต้น คาดว่าจะมีนโยบายตรึงราคาอย่างต่อเนื่องเพื่อลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน

ขณะที่อัตราค่าไฟฟ้าในงวดที่ 2 ของปีนี้ (งวด พ.ค.-ส.ค.2568) ที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้เสนอ 3 ทางเลือก โดยมีอัตราเฉลี่ย อยู่ที่ 4.15 – 5.16 บาทต่อหน่วยนั้น ขณะนี้ อยู่ระหว่างหาแนวทางปรับลดค่าไฟฟ้าให้ถูกลงกว่า 4.15 บาทต่อหน่วย ซึ่งยังมีเวลาที่จะดำเนินการ รวมถึง ยังเดินหน้าการศึกษารูปแบบการปรับโครงสร้างราคา PooL GAS ให้มีต้นทุนที่ถูกลงและต้องไม่กระทบต่อทุกฝ่ายด้วย เพื่อให้ค่าไฟฟ้าของประเทศมีราคาถูกลง