ผู้ชมทั้งหมด 351
“มนพร” เผย ขสมก. พร้อมเดินรถตามแผนปฏิรูปเส้นทาง 107 เส้นทาง เริ่ม 25 ก.ค.นี้ ขณะที่แผนจัดหารถใหม่ คาดเสนอ ครม. ภายใน ก.พ. 68 ทยอยรับรถช่วงไตรมาส 3/68 ลุยเพิ่มความถี่ 17 เส้นทางยอดฮิต รองรับผู้โดยสารวันละ 6-7 แสนคน มั่นใจครองแชมป์เบอร์ 1 มีผู้ใช้บริการรถขนส่งสาธารณะมากที่สุด
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เตรียมจัดการเดินรถในเส้นทางตามแผนปฏิรูปรถโดยสารประจำทางในเขตกรุงเทพมหานคร (กทม.) และจังหวัดที่มีเส้นทางต่อเนื่อง จำนวนทั้งหมด 107 เส้นทาง ในส่วนการเดินรถเส้นทางเดิมนั้น ยังคงดำเนินการอยู่ ควบคู่ไปกับเส้นทางปฏิรูปที่มีการเปลี่ยนแปลงเส้นทาง เพื่อให้ประชาชนได้ใช้บริการสะดวกมากยิ่งขึ้น
สำหรับในปัจจุบัน ขสมก. มีรถโดยสารทั้งหมด จำนวน 2,884 คัน แบ่งเป็น รถธรรมดา (ครีมแดง) จำนวน 1,520 คัน และรถปรับอากาศ (รถเมล์แอร์) จำนวน 1,365 คัน ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ ขสมก. ไปดำเนินแผนจัดหารถใหม่ ภายใต้โครงการเช่ารถโดยสารประจำทางปรับอากาศพลังงานสะอาด (EV) เพื่อเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
นางมนพร กล่าวต่อว่า แผนการจัดหารถใหม่นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงเพิ่มเติมในรายละเอียดโครงการเช่ารถโดยสารประจำทางปรับอากาศพลังงานสะอาด (EV) ตามข้อสังเกตของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างและจัดทำร่างเอกสารประกวดราคา (TOR) ในรูปแบบการเช่ารถ พร้อมทั้งพิจารณาผลการคัดเลือก และเสนอให้สำนักงบประมาณ (สงป.) พิจารณาด้านงบประมาณ คาดว่า จะแล้วเสร็จภายในปี 2567
ขณะเดียวกัน คาดว่า จะสามารถเสนอให้คณะกรรมการ (บอร์ด) ขสมก. พิจารณาอนุมัติการเช่ารถ และเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติโครงการฯ ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ก่อนจะลงนามสัญญาในเดือนมีนาคม 2568 และทยอยรับรถในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2568 อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน ขสมก. มีจำนวนผู้โดยสารใช้บริการเฉลี่ย วันละประมาณ 650,000-700,000 คน-เที่ยว และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า ในสิ้นปี 2567 การให้บริการรถสาธารณะของ ขสมก. ยังครองสัดส่วนเป็นอันดับ 1 ด้วยเช่นกัน
นางมนพร กล่าวอีกว่า ยังได้มอบหมายให้ ขสมก. เร่งพัฒนาการให้บริการในทุกมิติ โดยการเพิ่มความถี่ในการปล่อยรถควรปรับให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้โดยสารในแต่ละเส้นทาง โดยเฉพาะเส้นทางที่เป็นยอดนิยมของผู้ใช้บริการ ได้แก่ สาย 510 ,84 ,134 ,68 ,95ก ,516 ,1-38 ,96 ,145 ,1-36 ,15 ,76 ,511 ,73 ,205 ,23 และ 95 อีกทั้งจะต้องพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ทั้งจำนวนผู้โดยสาร ระยะทาง และสภาพการจราจร รวมถึงปรับความถี่รถโดยสารของ ขสมก. ทุก ๆ 5-10 นาที ในช่วงเวลาเร่งด่วน
นอกจากนี้ ให้ใช้ระบบ GPS และแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน จะช่วยให้ผู้โดยสารสามารถตรวจสอบตำแหน่งของรถโดยสารได้ และจัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดตามป้าย หรือสถานที่ที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก เพื่อบริหารจัดการเดินรถ ประสานท่าปล่อยรถในการนำรถมารับผู้ใช้บริการได้ทัน เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้โดยสาร ลดระยะเวลาในการรอรถดดยสาร ทำให้ผู้โดยสารสามารถเดินทางได้รวดเร็วขึ้น และลดความเครียดจากการเดินทางด้วย