การบินไทย-นกแอร์ -ไทยแอร์เอเชียพร้อมอพยพแรงงานไทยในอิสราเอล

ผู้ชมทั้งหมด 531 

คมนาคม ร่วมกับกระทรวงต่างประเทศ เตรียม 3 สายการบิน การบินไทยนกแอร์ –ไทยแอร์เอเชีย พร้อมอพยพแรงงานไทย 5 พันคนกลับจากอิสราเอลใน วัน

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ กองบัญชาการกองทัพไทย และสายการบินเพื่อสรุปแผน อพยพคนไทยกว่า 5 พันคนที่แจ้งความประสงค์กลับประเทศ ตามข้อห่วงใยของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ได้สั่งการ ให้กระทรวงคมนาคม ร่วมกับ กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ที่ประชุมได้หารือเพื่อประเมินสถานการณ์ในประเทศอิสราเอลในขณะนี้และสรุปแผนเตรียมความพร้อมการอพยพแรงงานคนไทยกลับประเทศ ตามที่นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยต่อคนไทยที่ยังติดอยู่ในสถานการณ์การสู้รบให้กลับสู่ประเทศไทยโดยเร็วที่สุด

อย่างไรก็ตามที่ประชุมได้รับรายงานจากนายณรงค์ บุญเสถียรวงศ์ รองอธิบดีกรมการกงสุล ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ ว่าขณะนี้ สถานการณ์การสู้รบขยายวงกว้างออกไปมาก ส่งผลต่อการเดินทางไปยังจุดต่าง ๆ เกือบทุกแห่งทำให้การรวบรวมคนงานไทยไปยังสถานที่ปลอดภัย เพื่อเตรียมการลำเลียงขึ้นเครื่องบินกลับประเทศ รวมทั้งการเดินทางไปยังสนามบินเทลอาวีฟ ซึ่งเป็นสนามบินแห่งเดียวในอิสราเอลที่ยังคงเปิดใช้งานอยู่ยังเป็นไปด้วยความยากลำบาก อย่างไรก็ตามทางกระทรวงการต่างประเทศยังคงใช้ความพยายามทุกวิถีทางในขณะนี้เพื่อรวบรวมคนไทยทั้งหมด ซึ่งรวมทั้งการเปิดศูนย์ฉุกเฉินทำงานตลอด 24 ชั่วโมง

ในขณะที่การเตรียมความพร้อมด้านเที่ยวบิน ขณะนี้มีสายการบินของไทยอย่างน้อย 3 สายการบินที่แสดง ถึงความพร้อมสำหรับปฏิบัติการรับคนไทยกลับประเทศ ได้แก่ สายการบินไทยแอร์เอเชีย การบินไทย และนกแอร์ ที่จะสามารถเดินทางไปรับได้ภายใน 3 วันเมื่อได้มีการกำหนดแผนและสนามบินที่จะใช้เป็นจุดรับคนไทยเป็นที่ชัดเจนแล้ว โดยอาจเป็นทั้งที่สนามบินเทลอาวีฟหรือสนามบินอื่น ๆ ภายนอกประเทศอิสราเอลที่มีความปลอดภัย ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับความพร้อมในการรวบรวมคนไทยในประเทศอิสราเอลที่จะดาเนินการโดยกระทรวงการ ต่างประเทศเป็นสาคัญ เพื่อให้ทราบทั้งจำนวนและสนามบินที่จะใช้เป็นจุดรับ

ทั้งนี้ ในส่วนของการขออนุญาตทำการบินเพื่อการส่งกลับประเทศ (Repatriation Flight) ซึ่งจะต้องขอ อนุญาตทั้งประเทศปลายทางและประเทศที่บินผ่านเป็นกรณีพิเศษ ที่ประชุมได้สรุปให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ดำเนินการประสานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ เพื่อยื่นขออนุญาตเป็นทางการกับอิสราเอล รวมทั้ง ประสานเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศอื่น ๆ เช่น ประเทศจอร์แดน ในกรณีที่มีแผนจะให้เครื่องบินไปรับนอก เขตแดนของอิสราเอลที่มีพรมแดนติดกัน ตลอดจนประสานประเทศระหว่างทางที่เที่ยวบินพิเศษนี้จะต้องทำการบินผ่านเพื่ออำนวยความสะดวกตลอดเส้นทาง ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติสากลระหว่างรัฐต่อรัฐในกรณีดังกล่าว ทั้งนี้เบื้องต้นสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ได้มีหนังสือแจ้งไปยังสำนักงานการบินแห่งอิสราเอล (CAAI) ทราบล่วงหน้าแล้ว

นายสุริยะ กล่าวว่า ที่ประชุมได้สรุปแผนเบื้องต้น ดังนี้ 1. กระทรวงการต่างประเทศจะเร่งดำเนินการรวบรวมคน ไทยและสรุปจำนวนและสถานที่นัดหมายรับคนไทยเพื่อแจ้งให้กระทรวงคมนาคมทราบ เพื่อกำหนดแผนเที่ยวบิน ให้กับสายการบินทราบต่อไป 2.แผนการขนส่งคนไทยกลับประเทศจะกำหนดไว้เป็นสองแนวทางร่วมกัน ทั้งการบินตรงจากสนามบินต้นทางสู่ประเทศไทย และการอพยพคนไทยออกจากอิสราเอลไปยังประเทศที่ปลอดภัย เช่น ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรืออินเดีย ซึ่งเป็นการบินระยะสั้น สามารถดำเนินการขนคนไทยได้จำนวนมากในเวลาที่รวดเร็วกว่าก่อนที่จะจัดเครื่องบินพาณิชย์เดินทางกลับสู่ประเทศไทยต่อไป ซึ่งถือได้ว่าการเตรียมความพร้อมทุกด้าน ทั้งเครื่องบินและการประสานเพื่อขออนุญาตทำการบิน กับประเทศต่าง ๆ ครบถ้วนแล้ว จึงเหลือเพียงความสำเร็จของการรวบรวมคนไทยไปยังจุดต่าง ๆ เพื่อกำหนดจุด รับต่อไปทันที ทั้งนี้ขอให้ทางกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการและแจ้งความคืบหน้าทันทีที่สามารถเริ่มปฏิบัติการบินตามแผนได้