ผู้ชมทั้งหมด 425
“มนพร” ให้ “การท่าเรือ” ร่วมกับมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เร่งเดินหน้าเยียวยาผู้ประสบภัยหลังน้ำลด ส่งมอบเมล็ดพันธุ์ผักสวนครัว 1 แสนซอง ใน 5 จังหวัด ลดรายจ่าย – สร้างความมั่นคงทางอาหารในชีวิตประจำวัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567 การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ร่วมกับมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ดำเนินโครงการเมล็ดพันธุ์แห่งความดี ชุบชีวีหลังน้ำลด โดยมีนายดรุฒ คำวิชิตธนาภา กรรมการ กทท. ให้เกียรติเป็นประธานมอบเงินสนับสนุนเพื่อจัดหาเมล็ดพันธุ์ผักจำนวน 100,000 ซอง ให้แก่ประชาชน โดยมีนายวีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้และประธานกรรมการมูลนิธิพัฒนามหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นผู้รับมอบ พร้อมด้วย นายอภิเสต พงษ์สุวรรณ รองผู้อำนวยการ กทท.สายบริหารสินทรัพย์และพัฒนาธุรกิจ นายขุนศรี ทองย้อย นายกสมาคมศิษย์เก่าแม่โจ้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายปรีดา นาเทเวศน์ กรรมการและเลขานุการมูลนิธิพัฒนามหาวิทยาลัยแม่โจ้ และพนักงาน กทท. เข้าร่วมงานฯ ณ มหาวิทยาลัยแม่โจ้
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ภัยพิบัติน้ำท่วมในภาคเหนือมีผู้ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยเป็นวงกว้าง กระทรวงคมนาคมได้เล็งเห็นถึงความเดือดร้อนของผู้ประสบอุทกภัยและการฟื้นฟูหลังน้ำลด จึงได้สั่งการให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ร่วมกับมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ เดินหน้าโครงการเมล็ดพันธุ์แห่งความดี ชุบซีวีหลังน้ำลด จัดหาเมล็ดพันธุ์ผักสวนครัวมอบให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย จำนวน 100,000 ซอง โดยให้สำรวจข้อมูลความต้องการร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้แก่พี่น้องประชาชนให้สามารถพึ่งพาตนเองสร้างความมั่นคงทางอาหารในชีวิตประจำวันและกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติโดยเร็ว
นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) กล่าวว่า โครงการเมล็ดพันธุ์แห่งความดี ชุบชีวีหลังน้ำลด เป็นความร่วมมือระหว่างการท่าเรือฯ กับมหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยสมาคมศิษย์เก่าแม่โจ้ ร่วมแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์ผักสวนครัว จำนวน 5 ชนิด ได้แก่ ผักกวางตุ้ง คะน้า ผักกาดขาวปลี ถั่วฝักยาว และมะเขือคางกบให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือ 5 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย น่าน แพร่ พะเยา สุโขทัย และพื้นที่ใกล้เคียง โดยผู้แทนสมาคมศิษย์เก่าแม่โจ้ที่อยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัยจะแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์ให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ของตนต่อไป เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนหลังน้ำลด เนื่องจากเป็นผักที่ปลูกง่าย ใช้พื้นที่น้อย ได้ผลผลิตเร็ว สามารถปลูกหมุนเวียนและเก็บผลิตได้ตลอดปี ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางและการซื้ออาหาร อีกทั้งยังเป็นการสร้างแหล่งอาหารภายในครัวเรือนได้ผักที่ปลอดภัยไร้สารเคมีต่อยอดสู่การสร้างรายได้ให้แก่พี่น้องประชาชนช่วงหลังน้ำลดได้อีกด้วย
ด้านการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยพิบัติน้ำท่วมในครั้งนี้ การท่าเรือฯ ได้ให้ความช่วยเหลือสนับสนุนประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการสนับสนุนเงินเยียวยาและเปิดช่องทางการบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัย เพื่อสร้างและซ่อมท่อประปาจากแหล่งน้ำบนภูเขาสู่หมู่บ้านในพื้นที่ จังหวัดเชียงราย พร้อมมอบถุงยังชีพสนับสนุนอาหาร น้ำดื่ม เสื้อผ้า สิ่งของอุปโภคบริโภค รวมทั้งเปิดให้ประชาชนโดยสารผ่านท่าและขนส่งสินค้าฟรีที่ท่าเรือเชียงของ หลังจากนี้การท่าเรือฯ พร้อมร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ช่วยเหลือประชาชนฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำลดจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น และหวังว่าเมล็ดพันธุ์ที่ได้ส่งมอบในครั้งนี้จะเป็นส่วนเล็กๆ ในการช่วยเหลือสังคมด้วยการปลูกพืชทดแทน สร้างแหล่งอาหารภายในครัวเรือนลดค่าใช้จ่าย เสริมสร้างรายได้ ให้กับผู้ประสบอุทกภัยให้สามารถรอดพ้นวิกฤติในครั้งนี้ไปด้วยกัน”