กองทุนน้ำมันฯติดลบ 71,516 ลบ. ต่ำสุดในรอบ 2 ปีอีกครั้ง

ผู้ชมทั้งหมด 102 

สกนช. เผยฐานะกองทุนน้ำมันฯ ติดลบเหลือ 71,516 ล้านบาท ต่ำสุดในรอบ 2 ปี ชี้สภาพคล่องดีขึ้น หลังรีดเงินผู้ใช้น้ำมันและLPG เข้ากองทุนฯ ขณะที่ข้อมูล สนพ. เผยค่าการตลาดกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮออล์ ยังสูงเฉลี่ย 3-4 บาทต่อลิตร

สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(สกนช.) รายงานฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ล่าสุดวันที่ 2 ก.พ.2568 ติดลบเหลือ 71,516 ล้านบาท ต่ำสุดในรอบ 2 ปีอีกครั้ง (นับตั้งแต่ปี 2566) แบ่งเป็น บัญชีน้ำมัน ติดลบ 25,024 ล้านบาท และบัญชีก๊าซหุงต้ม (LPG) ติดลบ 46,492 ล้านบาท

ทั้งนี้ เป็นผลมาจาก มติคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ที่กลับมาเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้น้ำมันทุกชนิดส่งเข้ากองทุนฯ อีกครั้ง หลังจากเมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2568 มีมติให้นำเงินไปชดเชยราคาดีเซล 0.50 บาทต่อลิตร

ส่งผลให้กองทุนฯมีสภาพคล่องดีขึ้น โดยมีเงินไหลเข้า 224.55 ล้านบาท หรือ ประมาณ 6,700 ล้านบาทต่อเดือน มาจากผู้ใช้น้ำมันรวม 213.39 ล้านบาท และมาจากการเรียกเก็บเงินผู้ใช้และผู้ผลิต LPG รวม 11.16 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม กองทุนฯ ยังมีภาระหนี้เงินกู้ เหลืออยู่ประมาณ 104,083 ล้านบาท

ปัจจุบัน กบน. เรียกเก็บเงินจากผู้ใช้น้ำมันแต่ละประเภท ดังนี้ ผู้ใช้น้ำมันเบนซิน ออกเทน95 ส่งเข้ากองทุนฯ 10.68 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์95 และ 91 ส่งเข้าถึง 4.60 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ส่งเข้า 2.61 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ส่งเข้า 1.16 บาทต่อลิตร, น้ำมันดีเซลและดีเซล B20 ส่งเข้า 0.71 บาทต่อลิตร และดีเซลเกรดพรีเมียม เรียกเก็บ 2.21 บาทต่อลิตร

ขณะที่ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผย ข้อมูลค่าการตลาดของผู้ค้าน้ำมัน ณ วันที่ 6 ก.พ. 2568 พบว่า ค่าการตลาดกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ ยังคงทรงตัวระดับสูง โดยน้ำมันเบนซินออกเทน 95 เรียกเก็บค่าการตลาด 4.32 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 มีค่าการตลาดที่ 3.26 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์91 อยู่ที่ 3.33 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 อยู่ที่ 3.94 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 อยู่ที่ 6.94 บาทต่อลิตร, ดีเซล อยู่ที่ 2.33 บาทต่อลิตร  โดยเฉลี่ยค่าการตลาดระหว่าง 1-6 ก.พ. 2568 อยู่ที่ 2.56 บาทต่อลิตร (จากค่าการตลาดที่เหมาะสม 1.5-2 บาทต่อลิตร)