ผู้ชมทั้งหมด 886
“IRPC” และ “INNOBIC” ผนึกกำลัง “PJW” ศึกษาพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์จากพลาสติกในกลุ่มวัสดุสิ้นเปลือง พร้อมเป็นตัวแทนผู้ผลิตไทยลุยตลาดใน ASEAN คาดออกผลิตภัณฑ์ตัวแรกได้สิ้นปีนี้ เล็งต่อยอดจัดตั้งบริษัทร่วมทุน ผลิตสินค้าในปี 2566
วันนี้ (7 มิ.ย.2565) บริษัท อินโนบิก (เอเชีย) จำกัด“INNOBIC” และบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) “IRPC” ร่วมกับ บริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก จำกัด (มหาชน) หรือ “PJW” ร่วมลงนาม ในพิธีบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อร่วมกันศึกษาและหาโอกาสทางธุรกิจในธุรกิจวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ ภายใต้การร่วมศึกษาข้อมูลตลาดเครื่องมือแพทย์ การออกแบบและพัฒนาการผลิตเครื่องมือแพทย์ การศึกษาความเป็นไปได้ของตลาดในด้านต่างๆ และศึกษากฎเกณฑ์ เพื่อประเมินความเป็นไปได้ทางธุรกิจ
ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและธุรกิจใหม่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และ ประธานกรรมการ บริษัท อินโนบิก (เอเชีย) จำกัด “INNOBIC” ระบุว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ กลุ่ม ปตท. และ INNOBIC มีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมกลุ่ม NEW S Curve และการเป็น MEDICAL Hub ของรัฐบาล ซึ่งอุตสาหกรรมวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ถือเป็น NEW S Curve ที่สำคัญของประเทศไทย โดยทางบริษัท ต้องการให้ความร่วมมือนี้ เป็นการสร้างฐานการผลิตผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ของอาเซียนในประทศไทย สามารถสร้างความแข็งแกร่งและเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมไทย
“ตลาดอุตสาหกรรมทางการแพทย์ มีการเติบโต 4-6%ต่อปี โดยทั่วโลกมีมูลค่า 5 แสนล้านดอลลาร์ หรือ 16 ล้านล้านบาท ขณะที่ประเทศไทยมีมูลค่า 5 หมื่นล้านบาท ทำให้ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก และที่สำคัญอุตสาหกรรมปิโตรเคมีของไทยติดอันดับโลก ฉะนั้น หากมีการนำเม็ดพลาสติกมาต่อยอดผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ จะสร้างมูลค่าเพิ่มได้ 5-10 เท่า”
ดร.ณัฐ อธิวิทวัส รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อินโนบิก (เอเชีย) จำกัด “INNOBIC” กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้ จะเป็นโครงการพัฒนาต่อเนื่องหลังจากทาง INNOBIC มีการร่วมทุนในการผลิตวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ ในกลุ่มผ้าชนิดไม่ถักไม่ทอ ที่เป็นวัสดุหลักของการผลิตหน้ากากอนามัย ร่วมกับทาง IRPC ไปก่อนหน้าแล้ว รวมถึงยังได้ร่วมทุนเพิ่มเติมกับพันธมิตรกลุ่มวัสดุอุปกรณ์การแพทย์ เพื่อเป็นฐานผลิตในการอุปกรณ์การแพทย์ที่เป็น Durable Medical Device
“ปัจจุบัน มีการนำเข้าวัสดุทางการแพทย์ ราว 80-90% ดังนั้น หากผลิตเพื่อทดแทนการนำเข้าได้ก็จะเกิดประโยชน์กับประเทศ และด้วยศักยภาพของทั้ง 3 บริษัท จะทำให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จ สามารถผลิตสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดทั้งในประเทศไทยและกลุ่มประเทศในภูมิภาคนี้ด้วย เป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจวัสดุทางการแพทย์ของไทย”
นายสมเกียรติ เลิศฤทธิ์ภูวดล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายกลยุทธ์แผนและพัฒนาธุรกิจองค์กร บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) “IRPC” เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดเครื่องมือและวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์มีการเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 เป็นปัจจัยหนุนให้ความต้องการผลิตภัณฑ์กลุ่ม Medical มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ประกอบกับช่วงปี 2565 ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ (Aged society) หรือ มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปมากกว่า 20% ของประชากรทั้งประเทศ และอีก 9 ปี ข้างหน้า ในปี 2574 จะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด (Super-Aged Society) มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปเกินกว่า 28% ของประชากรทั้งประเทศ ซึ่งจะเป็นโอกาสทางการตลาดที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์ smart material กลุ่ม Specialty Plastic หรือเม็ดพลาสติกเกรดพิเศษ สำหรับผลิตอุปกรณ์ที่ใช้ทางการแพทย์และสาธารณสุข (medical application) Smart Material ที่ได้คิดค้น วิจัย พัฒนาและผลิตเม็ดพลาสติก PP Meltblown วัตถุดิบหลักสำหรับผ้าชั้นกรองหน้ากากอนามัย หน้ากาก N95 และชุดกาวน์ เป็นรายแรกของประเทศ
พร้อมทั้ง ได้จัดตั้ง “วชิรแล็บเพื่อสังคม” ห้องปฏิบัติการกลางเพื่อทดสอบมาตรฐานผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์โดยความร่วมมือระหว่างคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ซึ่งความร่วมมือของทั้ง 3 ฝ่ายในครั้งนี้จะสามารถประสบผลสำเร็จทางธุรกิจ สามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม และขยายห่วงโซ่อุปทานธุรกิจปิโตรเคมีของ IRPC โดยใช้องค์ความรู้ ประสบการณ์ในการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมต่างๆ ที่ทำอยู่ในปัจจุบัน และเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของประเทศที่ทั้ง 3 บริษัท จะร่วมกันศึกษา พัฒนา และแสวงหาโอกาสในการลงทุนร่วมกันในธุรกิจผลิต และจำหน่ายวัสดุและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ทางการแพทย์
นายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก จำกัด (มหาชน) หรือ “PJW” เปิดเผยว่า การที่ PJW ได้ผนึกกำลังครั้งสำคัญ โดยเป็นหนึ่งใน Strategic Partner ร่วมกับกลุ่มในเครือ PTT ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณที่ดีให้กับบริษัทฯ เนื่องจากความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการนำจุดแข็งและความเชี่ยวชาญของทุกบริษัทมาต่อยอดธุรกิจ โดย “IRPC” มีศักยภาพความแข็งแกร่งในฐานะผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี และเม็ดพลาสติกชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่ “INNOBIC” มุ่งเน้นดำเนินการลงทุนในธุรกิจยา ธุรกิจวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ และธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ
“เบื้องต้น อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่น่าจะเริ่มผลิตจะเป็นตัวอุปกรณ์ใความชื่นออกซิเจน และที่เกี่ยวกับระบบฟอกไต ซึ่งหากผลิตได้ก็จะเกิดประโยชน์ ช่วยลดต้นทุนให้กับโรงพยาบาลและผู้ป่วยได้”
ทั้งนี้ การผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์จากพลาสติกในกลุ่มวัสดุสิ้นเปลืองที่ได้จากการวิจัยและพัฒนาร่วมกันกับพันธมิตรทั้ง 3 บริษัท คาดว่าสินค้าบางตัวจะแล้วเสร็จภายในช่วงปลายปี 2565นี้ โดยจะเริ่มจากการสั่งผลิต (OEM) สินค้าเพื่อนำมาจำหน่ายก่อน และหลังจากนั้นจะมีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน (JV) เพื่อก่อสร้างโรงงานและลงทุนเครื่องจักร ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในครึ่งหลังของปี 2566 ในขณะเดียวกัน ในกรอบ MOU นอกจากจะพัฒนาสินค้าด้วยตัวเองแล้ว ยังจะมีการศึกษาและมองหาโอกาสในการเข้าซื้อกิจการ เพื่อที่จะนำองค์ความรู้ต่างๆ เข้ามาช่วยในการสนับสนุนและเร่งรัดการเติบโตของบริษัทไปพร้อมๆกันด้วย