กรมเชื้อเพลิงฯจี้เชฟรอน-PTTEP จบปัญหาเข้าพื้นที่เอราวัณ

ผู้ชมทั้งหมด 917 

กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ จี้เชฟรอนฯ และ ปตท.สผ. เร่งประสานแก้ปัญหาการเข้าพื้นที่แหล่งเอราวัณ เพื่อผลิตก๊าซฯ ได้ต่อเนื่อง

นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยถึงกรณีที่มีการรายงานข่าวว่าค่าไฟฟ้าอาจจะแพงขึ้นจากกรณีการผลิตก๊าซธรรมชาติจากแหล่งกลุ่มเอราวัณที่การผลิตอาจจะไม่ต่อเนื่องหลังสัมปทานสิ้นอายุในปี พ.ศ. 2565 นั้น ว่า  กรณีดังกล่าวมีสาเหตุเนื่องมาจากปัจจุบันมีความล่าช้าในการเจรจาหารือในการเข้าพื้นที่ระหว่าง บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด (ในฐานะผู้รับสัมปทานปัจจุบัน) กับบริษัท ปตท.สผ.เอนเนอร์ยี่ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด หรือ ปตท.สผ.เอนเนอร์ยี่ฯ

บริษัท ย่อยของ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ในฐานะผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิต หรือ PSC ในแปลง G1/61 (แหล่งกลุ่มเอราวัณเดิม) เพื่อขอเข้าพื้นที่และเตรียมการดำเนินการต่าง ๆ ในช่วงเปลี่ยนผ่าน (Transition period) จากระบบสัมปทานที่จะสิ้นสุดระยะเวลาในเดือนเมษายน พ.ศ. 2565 ซึ่งบริษัท ปตท.สผ.เอนเนอร์ยี่ฯ จะต้องเริ่มดำเนินการต่อเพื่อให้มีความต่อเนื่องในการผลิตก๊าซธรรมชาติให้สามารถรักษาระดับการผลิตก๊าซธรรมชาติได้ตามเป้าหมาย วันละ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุต

อย่างไรก็ตามทางกรมฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเรื่องดังกล่าว ทั้งเร่งประสานให้ทั้ง 2 ฝ่ายให้มีการเจรจาโดยเร็วที่สุด และขอเรียนชี้แจงเพิ่มเติมว่าการเข้าพื้นที่ล่าช้าดังกล่าว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับประเด็นที่อยู่ในกระบวนการระงับข้อพิพาทโดยอนุญาโตตุลาการ เพราะเรื่องดังกล่าวก็เป็นไปตามกระบวนการทางข้อกฎหมาย ซึ่งอาจมีความเห็นไม่ตรงกันได้และสามารถเกิดขึ้นได้โดยทั่วไปแล้วแต่กรณี แต่การเข้าพื้นที่ของผู้รับสัญญารายใหม่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน (Transition period) นั้น เป็นความจำเป็นที่เราต้องได้รับความร่วมมืออย่างเร่งด่วนและจริงใจของทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งรายปัจจุบันและรายใหม่ที่จะเข้ามาดำเนินการ เพื่อการบริหารพลังงานของประเทศจะไม่มีการสะดุด และไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชน ซึ่งกระทรวงพลังงานโดยกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติจะพยายามเร่งให้ทั้ง 2 ฝ่ายเจรจาหารือโดยเร็วที่สุด เพราะเชื่อมั่นว่าทุกฝ่ายต้องยึดประโยชน์ของคนไทยเป็นหลัก