ผู้ชมทั้งหมด 1,017
กรมทางหลวง ลงพื้นที่ตรวจสอบและเร่งฟื้นฟูเส้นทางที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ให้สามารถกลับมาสัญจรได้อย่างเร็วที่สุดพบทางหลวงที่ผ่านไม่ได้อีก 7 แห่ง
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมบนทางหลวงในหลายจังหวัด ได้มีหลายเส้นทางที่มีระดับน้ำลดลงจนกลับสู่สภาวะปกติแล้ว กรมทางหลวงได้สั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่เร่งรัดดำเนินการกู้เส้นทางในจังหวัดที่ได้รับความเสียหายอย่างเร่งด่วน เพื่อเป็นการคืนผิวจราจรให้ประชาชนสามารถสัญจรได้อย่างสะดวก ปลอดภัย ตามปกติ ตามนโยบาย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่มีความห่วงใยประชาชนผู้ประสบภัยในครั้งนี้ โดยได้ดำเนินการ ดังนี้
– แขวงทางหลวงอุบลราชธานีที่ 1 ดำเนินการทำความสะอาดผิวทางและปะซ่อมผิวทาง หลังน้ำลด บนทางหลวงหมายเลข 23 ตอน เขื่องใน – อุบลราชธานี กม.260+200 – กม.261+900 และทางหลวงหมายเลข 226 ตอน ห้วยขะยุง – วารินชำราบ กม.319+600 – กม.320+200 เพื่อให้ประชาชนสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกและปลอดภัย
– แขวงทางหลวงขอนแก่นที่ 3 เร่งฟื้นฟูเส้นทางในพื้นที่รับผิดชอบ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย น้ำเซาะคันทางขาดบริเวณทางหลวงหมายเลข 2065 ตอน พล – ลำชี ที่ กม.33+125 – 34+507 โดยดำเนินการปรับแต่งบดอัดขึ้นรูปคันทางใหม่ และปรับระดับด้วยดินลูกรังหินคลุกพร้อมทั้งวางท่อ Cross จำนวน 3 แถว ระยะทางประมาณ 350 ม. คันทางกว้างประมาณ 6 เมตร ปัจจุบันปรับปรุงผิวจราจรทางเบี่ยงให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางสามารถกลับมาสัญจรได้ปกติดีและจะดำเนินการซ่อมแซมแบบถาวรต่อไป เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน
– แขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ ระดมเจ้าหน้าที่กู้เส้นทาง โดยกั้นน้ำด้วยการวางกระสอบทราย เพื่อเปิดการจราจรให้เร็วที่สุด บนทางหลวงหมายเลข 214 สาย กาฬสินธุ์ – ร้อยเอ็ด ระหว่าง กม.24+400 – 27+800 (ช่วงจากบ้านหัวแฮดถึงสี่แยกไฟแดง บ้านท่ากลาง, บ้านท่าเพลิง อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์)
– แขวงทางหลวงมหาสารคามดำเนินการสูบน้ำและติดตั้งแผ่นยางเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำรั่วซึมบริเวณทางหลวงหมายเลข 213 ตอน มหาสารคาม – หนองขอนระหว่าง กม.3+500 – กม.5+000
– แขวงทางหลวงอ่างทอง ลงพื้นที่ตรวจสอบทางหลวงหมายเลข 3064 (อำเภอโพธิ์ทอง) ที่ถูกน้ำกัดเซาะจนเกิดการทรุดตัวจากอุทกภัย
พร้อมกันนี้กรมทางหลวง ได้ทำการสรุปสถานการณ์อุทกภัยและดินสไลด์บนทางหลวง โดย สถานการณ์ประจำวันที่ 27 ตุลาคม 2565 เวลา 15.00 น. พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ ในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ จ.ศรีสะเกษ, หนองบัวลำภู, จ.อุบลราชธานี, จ.มหาสารคาม, จ.กาฬสินธุ์, จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.ภูเก็ต จำนวน 8 สายทาง 8 แห่ง ที่การจราจรผ่านไม่ได้ 7 แห่ง ดังนี้
1.จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 1 แห่ง บนทางหลวงหมายเลข 2412 ตอน ท่าศาลา – ละทาย ในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ ช่วง กม.ที่ 12+000 – 16+500 เป็นช่วงๆ ระดับน้ำ 40 – 50 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน คาดว่าการจราจรจะผ่านได้ 15 พฤศจิกายน 2565
2.จังหวัดหนองบัวลำภู จำนวน 1 แห่ง บนทางหลวงหมายเลข 2146 ตอน หนองบัวลำภู – เขื่อนอุบลรัตน์ ช่วง กม.ที่ 39+500 – 42+100 ระดับน้ำ 40 – 50 ซม. ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน คาดว่าการจราจรจะผ่านได้ 15 พฤศจิกายน 2565
3. จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 1 แห่ง บนทางหลวงหมายเลข 24 ตอน วารินชำราบ – อุบลราชธานี ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ ช่วง กม.ที่ 418+400 – 419+600 ระดับน้ำ 35 – 40 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยง ทล.217 ทางแยกต่างระดับบัวเทิง เลี้ยวซ้ายไปสะพานข้ามแม่น้ำมูล เข้าสู่ตัวเมืองอุบลราชธานี คาดว่าการจราจรผ่านได้ 1 พฤศจิกายน 2565
4.จังหวัดมหาสารคาม จำนวน 1 แห่ง บนทางหลวงหมายเลข 2391 ตอน กู่ทอง – บ้านเขื่อน ช่วง กม.ที่ 23+900 – 24+900 ระดับน้ำ 60 ซม. ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน คาดว่าการจราจรจะผ่านได้ 30 ตุลาคม 2565
5.จังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 1 แห่ง บนทางหลวงหมายเลข 214 ตอน บ้านหลุบ – ลำชี ในพื้นที่ อ.กมลาไสย ช่วง กม.ที่ 23+200 – 27+500 ระดับน้ำ 40 – 45 ซม. ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน คาดว่าการจราจรจะผ่านได้ 30 ตุลาคม 2565
6.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 1 แห่ง บนทางหลวงหมายเลข 3412 ตอน อยุธยา – บางบาล ในพื้นที่ อ.บางบาล ช่วง กม.ที่ 13+500 – 15+950 ระดับน้ำ 50 ซม. ให้ใช้ทางเลี่ยง เลี้ยวซ้ายเข้าวัดบ้านขวางออกทางหลวงชนบท 4038 คาดว่าการจราจรจะผ่านได้ 1 พฤศจิกายน 2565
7.จังหวัดภูเก็ต จำนวน 1 แห่ง บนทางหลวงหมายเลข 4029 ตอน กะทู้ – ป่าตอง ในพื้นที่ อ.กะทู้ ช่วง กม.ที่ 0+000 – 0+005 พื้นผิวจราจรเกิดการสไลด์ตัว ให้ใช้ทางเลี่ยง ทล.4025, 4028 และ 4030 อยู่ระหว่างการซ่อมแซม คาดว่าผ่านได้ 10 พฤศจิกายน 2565
ทั้งนี้ ในส่วนของป้ายทะเบียนรถที่สูญหายจากอุทกภัย สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ หมวดทางหลวงและแขวงทางหลวงในพื้นที่ หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือ ต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อ ได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางและเส้นทางเลี่ยงได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh1