กรมทางหลวง เร่งฟื้นฟูสภาพผิวจราจรหลังน้ำลด สำรวจความเสียหาย 806 แห่ง

ผู้ชมทั้งหมด 721 

กรมทางหลวง ปฏิบัติการฟื้นฟูสภาพผิวจราจรหลังน้ำลดอย่างต่อเนื่อง พร้อมเร่งสำรวจความเสียหายจากทางหลวงที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด 806 แห่ง

นายสราวุธ  ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมบนทางหลวงที่ผ่านมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565 จนถึงปัจจุบัน ส่งผลกระทบให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งกรมทางหลวงได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง  โดยได้สั่งการหน่วยงานในพื้นที่ดำเนินการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยทั้งกรณีเร่งด่วนและต่อเนื่องตามสถานการณ์อย่างเต็มกำลัง 

สำหรับมาตรการที่มีการดำเนินการอยู่ในปัจจุบันหลังระดับน้ำลดลง ได้เข้าฟื้นฟู และซ่อมแซมเพื่อเร่งคืนสภาพผิวจราจร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้ใช้เส้นทางให้เดินทางได้อย่างสะดวกปลอดภัย โดยดำเนินการตามนโยบาย นายศักดิ์สยาม  ชิดชอบ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่มีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบต่อสถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ โดยกรมทางหลวงกำลังเร่งสำรวจตรวจสอบความเสียหายทางหลวงในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหลังสถานการณ์กลับสู่ปกติซึ่งขณะนี้มีจำนวน 238 สายทาง 806 แห่ง เพื่อจัดสรรงบประมาณในการซ่อมบำรุงต่อไป

พร้อมกันนี้กรมทางหลวง ได้ทำการสรุปสถานการณ์อุทกภัยและดินสไลด์บนทางหลวง โดย สถานการณ์ประจำวันที่ 31 ตุลาคม  2565 เวลา 14.00 น. พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ ในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จ.กาฬสินธุ์, จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.ภูเก็ต จำนวน 3 สายทาง 3 แห่ง  ที่การจราจรผ่านไม่ได้ 3 แห่ง ดังนี้

1.จังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 1 แห่ง  บนทางหลวงหมายเลข 214 ตอน บ้านหลุบ – ลำชี ในพื้นที่ อ.กมลาไสย ช่วง กม.ที่ 23+200 – 24+800 ระดับน้ำ 40 – 65 ซม. ให้ใช้ทางเลี่ยงทางหลวงหมายเลข 23, 213, 12 คาดว่าการจราจรจะผ่านได้ 1 พฤศจิกายน 2565

2.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 1 แห่ง  บนทางหลวงหมายเลข 3412 ตอน อยุธยา – บางบาล ในพื้นที่ อ.บางบาล ช่วง กม.ที่ 13+500 – 15+950 ระดับน้ำ 30 ซม. ให้ใช้ทางเลี่ยง เลี้ยวซ้ายเข้าวัดบ้านขวางออกทางหลวงชนบท 4038 คาดว่าการจราจรจะผ่านได้ 1 พฤศจิกายน 2565

3.จังหวัดภูเก็ต จำนวน 1 แห่ง  บนทางหลวงหมายเลข 4029 ตอน กะทู้ – ป่าตอง ในพื้นที่ อ.กะทู้ ช่วง กม.ที่ 0+000 – 0+005 พื้นผิวจราจรเกิดการสไลด์ตัว ให้ใช้ทางเลี่ยง ทล.4025, 4028 และ 4030 อยู่ระหว่างการซ่อมแซม คาดว่าผ่านได้ 10 พฤศจิกายน 2565

ทั้งนี้จากสถานการณ์อุทกภัย จากอิทธิพลพายุไต่ฝุ่น โนรู ที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565 ถึงปัจจุบันทำให้ทางหลวงได้รับผลกระทบทั้งหมด จำนวน 238 สายทาง จำนวน 63 จังหวัด จำนวน 806 แห่ง และยังคงมีน้ำท่วมเหลืออีกเพียง 3 จังหวัด

อย่างไรก็ตามกรมทางหลวงได้สั่งการให้ สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงทั่วประเทศ เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีพื้นที่ใดประสบปัญหา เจ้าหน้าที่จะเข้าพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทันที โดยขอให้ประชาชนผู้ใช้ทางโปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือ ต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อ ได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางและเส้นทางเลี่ยงได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh1