ผู้ชมทั้งหมด 50
กรมทางหลวง (ทล.) ชวนท่องเที่ยวเส้นทาง Unseen ศึกษาธรรมชาติแหล่งท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ถ้ำหินปูนขนาดใหญ่อายุกว่าล้านปี “หุบป่าตาด” จังหวัดอุทัยธานี ป่าโบราณที่ซ่อนตัวอยู่ภายในเขาหินปูนที่ถูกน้ำฝนกัดเซาะเป็นเวลานานจนเกิดรอยแยกของหินเป็นโพรงถ้ำขนาดใหญ่ภายในขุนเขา โดยใช้เวลานับแสนนับหมื่นปีจนกระทั่งเพดานถ้ำถล่มลงมาพร้อมพืชพันธุ์ไม้ทำให้เกิดเป็นป่าขึ้นภายในถ้ำ
“หุบป่าตาด” เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ถ้ำนี้ ถูกค้นพบโดยพระครูสันติธรรมโกศล (หลวงพ่อทองหยด) เจ้าอาวาสวัดถ้ำทอง เมื่อปี 2522 บริเวณ บริเวณป่าถูกล้อมด้วยภูเขาหินปูนรอบด้าน และมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเติบโตของพืช ทั้งอุณหภูมิ ความชื้น อากาศ แสงแดด ฯลฯ จึงทำให้เกิดเป็นระบบนิเวศน์เฉพาะตัวที่คล้ายกับยุคร้อยล้านปีก่อน ทั้งสัตว์ป่าและพันธุ์ไม้ เมื่อเดินผ่านอุโมงค์แล้วก็จะเข้าพื้นที่หุบเขาที่มีต้นตาดเป็นจำนวนมาก ซึ่งต้นตาดหรือต๋าว เป็นต้นไม้ดึกดำบรรพ์ตระกูลเดียวกับต้นปาล์ม เป็นพืชตระกูลปาล์มที่ไม่สามารถปลูกได้จะขึ้นเองตามธรรมชาติเท่านั้น
เดินศึกษาธรรมชาติไปเรื่อยๆ จะพบกับโถงถ้ำกลางหุบป่าตาดที่มีหินงอกหินย้อย หินงอกเอนให้ชื่นชมตลอดเส้นทาง แต่ห้ามสัมผัสเด็ดขาด เนื่องจากจะมีผลต่อการเจริญเติบโตของหินงอกหินย้อย เพื่อเป็นการช่วยกันอนุรักษ์โลกดึกดำบรรพ์ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว และศึกษาธรรมชาติต่อไป สามารถเดินทางจากตัวเมืองอุทัยธานีโดยใช้ทางหลวงหมายเลข 333 ผ่านอำเภอหนองฉาง เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 3438 ไปยังอำเภอลานสักประมาณ 21.5 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวซ้ายไปตามทางลาดยางอีกประมาณ 6 กิโลเมตรก็จะถึงหุบป่าตาด ซึ่งใช้ทางเข้าทางเดียวกับเขาปลาร้า หุบป่าตาดอยู่ก่อนถึงเขาปลาร้าประมาณ 1 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาทีก็จะถึงเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน เปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 น. – 16.00 น. โดยมีค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท
ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้มุ่งมั่นที่จะพัฒนาทางหลวงทุกสายให้มีความสะดวก รวดเร็วและปลอดภัยในทุกเส้นทางเพื่อรองรับการคมนาคมที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นจัดให้มีจุดพักรถเพื่อรองรับการเดินทางของประชาชน เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยภายในประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดความมั่นคง เข้มแข็ง อย่างยั่งยืน กรมทางหลวงขอให้ประชาชนเดินทางด้วยความระมัดระวัง หากประชาชนต้องการสอบถามเส้นทางการจราจรหรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทร.ฟรี 24 ชั่วโมง)