กรมทางหลวงเร่งช่วยเหลือประชาชน พร้อมกู้เส้นทางให้สัญจรได้อย่างเร็วที่สุด

ผู้ชมทั้งหมด 482 

นายสราวุธ  ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมบนทางหลวง โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งในขณะนี้ในบางพื้นที่ได้คลี่คลายลงบ้างแล้วนั้น ก็ได้ทำการคืนสภาพผิวจราจร ทำความสะอาดและซ่อมแซมผิวทางที่ชำรุด นอกจากนั้นกรมทางหลวงได้สั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่ที่น้ำท่วมเร่งดำเนินการภารกิจกู้เส้นทางในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ กั้นน้ำโดยการวางกระสอบทราย พร้อมทำการติดตั้งป้ายเตือนแนวทาง และบูรณาการให้ความช่วยเหลือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้รับความสะดวกปลอดภัยในการสัญจรโดยเร็วที่สุด พร้อมทั้งเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ตามข้อสั่งการของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่มีความห่วงใยประชาชนผู้ประสบภัยในครั้งนี้ โดยได้ดำเนินการ ดังนี้

– สำนักเครื่องกลและสื่อสาร ได้สนับสนุนรถบริการประชาชนที่เดินทาง เข้า – ออก อ.เมืองอ่างทอง ผ่านเส้นทางที่เกิดอุทกภัย บนทางหลวงหมายเลข 3064 ให้มีความสะดวกสบายและปลอดภัย

– แขวงทางหลวงอ่างทองร่วมกับ สภ.ป่าโมก เข้าเร่งคืนสภาพผิวจราจร บนทางหลวงหมายเลข 309 และ ทางหลวงหมายเลข 364 (บริเวณแยกป่างิ้ว) เนื่องจากระดับที่ลดลงและเปิดการจราจรให้ใช้ได้อย่างปกติ และได้จัดรถบริการ รับ – ส่ง ประชาชน เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่น้ำท่วมสูง บนทางหลวงหมายเลข 3064 ตอน อ่างทอง – ปากดง ในพื้นที่อำเภอโพธิ์ทอง

– แขวงทางหลวงอุบลราชธานีที่ 1 นำเจ้าหน้าที่ในสังกัดเข้าดำเนินการทำความสะอาดและซ่อมผิวทางที่ชำรุดหลังน้ำลด บนทางหลวงหมายเลข 231 ตอน ถนนวงแหวนรอบเมืองอุบลราชธานี กม.6+000 – 8+350 และทางหลวงหมาเลข 226 ตอน ห้วยขะยุง – วารินชำราบ กม.314+00 – กม.314+200 เพื่อให้ประชาชนสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกและปลอดภัย

– แขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ ดำเนินการกู้เส้นทางและให้บริการช่วยเหลือประชาชน บนทางหลวงหมายเลข 214 สาย กาฬสินธุ์ – ร้อยเอ็ด ระหว่าง กม.24+400 – 27+800 (ช่วงจากบ้านโจดถึงสี่แยกไฟแดง บ้านท่ากลาง, บ้านท่าเพลิง อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์

– แขวงทางหลวงภูเก็ต นำเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุดินสไลด์ บนทางหลวงหมายเลข 4024 ตอน บางคู – ตีนเขา บริเวณ กม.3+500 เพื่อหาแนวทางปรับปรุงแก้ไขต่อไป

พร้อมกันนี้กรมทางหลวง ได้ทำการสรุปสถานการณ์อุทกภัยและดินสไลด์บนทางหลวง โดย สถานการณ์ประจำวันที่ 26 ตุลาคม  2565 เวลา 12.30 น. พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ ในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ จ.ศรีสะเกษ, จ.อุบลราชธานี, จ.มหาสารคาม, จ.กาฬสินธุ์, จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.ภูเก็ต จำนวน 8 สายทาง 8 แห่ง  ที่การจราจรผ่านไม่ได้ 6 แห่ง ดังนี้

1. จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 1 แห่ง บนทางหลวงหมายเลข 2412 ตอน ท่าศาลา – ละทาย ในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ ช่วง กม.ที่ 12+000 – 16+500 เป็นช่วงๆ ระดับน้ำ 40 – 50 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน คาดว่าการจราจรจะผ่านได้ 15 พฤศจิกายน 2565

2. จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 1 แห่ง บนทางหลวงหมายเลข 24 ตอน วารินชำราบ – อุบลราชธานี ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ ช่วง กม.ที่ 418+400 – 419+600 ระดับน้ำ 35 – 40 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยง ทล.217 ทางแยกต่างระดับบัวเทิง เลี้ยวซ้ายไปสะพานข้ามแม่น้ำมูล เข้าสู่ตัวเมืองอุบลราชธานี คาดว่าการจราจรผ่านได้ 1 พฤศจิกายน 2565

3.จังหวัดมหาสารคาม จำนวน 1 แห่ง บนทางหลวงหมายเลข 2391 ตอน กู่ทอง – บ้านเขื่อน ช่วง กม.ที่ 23+900 – 24+900 ระดับน้ำ 60 ซม. ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน คาดว่าการจราจรจะผ่านได้ 30 ตุลาคม 2565

4.จังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 1 แห่ง  บนทางหลวงหมายเลข 214 ตอน บ้านหลุบ – ลำชี ในพื้นที่ อ.กมลาไสย ช่วง กม.ที่ 23+200 – 27+500 ระดับน้ำ 40 – 45 ซม. ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน คาดว่าการจราจรจะผ่านได้ 30 ตุลาคม 2565

5.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 1 แห่ง  บนทางหลวงหมายเลข 3412 ตอน อยุธยา – บางบาล ในพื้นที่ อ.บางบาล ช่วง กม.ที่ 13+500 – 15+950 ระดับน้ำ 50 ซม. ให้ใช้ทางเลี่ยง เลี้ยวซ้ายเข้าวัดบ้านขวางออกทางหลวงชนบท 4038 คาดว่าการจราจรจะผ่านได้ 1 พฤศจิกายน 2565

6.จังหวัดภูเก็ต จำนวน 1 แห่ง  บนทางหลวงหมายเลข 4029 ตอน กะทู้ – ป่าตอง ในพื้นที่ อ.กะทู้ ช่วง กม.ที่ 0+000 – 0+005 พื้นผิวจราจรเกิดการสไลด์ตัว ให้ใช้ทางเลี่ยง ทล.4025, 4028 และ 4030 อยู่ระหว่างการซ่อมแซม คาดว่าผ่านได้ 10 พฤศจิกายน 2565

ทั้งนี้ ในส่วนของป้ายทะเบียนรถที่สูญหายจากอุทกภัย สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ หมวดทางหลวงและแขวงทางหลวงในพื้นที่ หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือ ต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อ ได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางและเส้นทางเลี่ยงได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh1