ผู้ชมทั้งหมด 185
กบน. ฉวยจังหวะราคาน้ำมันตลาดโลกขาลง รีดเงินผู้ใช้น้ำมัน “กลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์” ส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ เพิ่มประมาณ 1 บาทต่อลิตร ขณะที่ ดีเซล จัดเก็บเท่าเดิม 3 บาทต่อลิตร เผยสถานะเงินกองทุนฯ ติดลบเหลือ 56,652 ล้านบาท
แหล่งข่าวกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2568 มีมติเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้น้ำมันเฉพาะกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ ส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ เฉลี่ยเพิ่มขึ้น ประมาณ 1 บาทต่อลิตร ขณะที่ น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และ 91 เก็บเพิ่มขึ้น 1.53 บาทต่อลิตร
ส่งผลให้อัตราเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ เปลี่ยนแปลงดังนี้ ผู้ใช้เบนซินออกเทน 95 ถูกเก็บเพิ่มเป็น 10.71 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 เพิ่มเป็น 2.70 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 เพิ่มเป็น 3.60 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และ 91 เพิ่มเป็น 4.40 บาทต่อลิตร
ส่วนกลุ่มดีเซล คงอัตราเรียกเก็บเท่าเดิม ดังนี้ ดีเซลและดีเซล B20 เรียกเก็บ 3 บาทต่อลิตร และดีเซลเกรดพรีเมียมเรียกเก็บ 4.50 บาทต่อลิตร
ทั้งนี้ การเรียกเก็บเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ เพิ่ม เป็นผลมาจากราคาน้ำมันโลกที่ปรับลดลง ล่าสุด ณ วันที่ 10 เม.ย. 2568 เวลาประมาณ 14.30 น. ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ระดับ 66 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ราคาลดลง 1.17 เหรียญหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) อยู่ที่ 61.50 เหรียญหรัฐฯต่อบาร์เรล ลดลง 0.85 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) อยู่ที่ 64.51 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ลดลง 0.97 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
ขณะที่สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผย สถานะเงินกองทุนน้ำมันฯ ล่าสุด ณ วันที่ 6 เม.ย. 2568 พบว่า ติดลบรวม อยู่ที่ 56,652 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมัน ติดลบ 10,855 ล้านบาท และบัญชีก๊าซหุงต้ม (LPG) ติดลบ 45,797 ล้านบาท
