ผู้ชมทั้งหมด 12,553
กทพ. เปิดไทม์ไลน์แผนลงทุนทางพิเศษสายศรีนครินทร์-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เร่งเจรจา สจล.ก่อนศึกษาออกแบบ คาดแล้วเสร็จเดือน ก.ย. 67 มั่นใจกรอบวงเงินลงทุนต่ำกว่า 29,500 ล้านบาท คาดขออนุมัติ ครม. ปี 68 เปิดประมูลปี 69 เริ่มก่อสร้างปี 70 เปิดบริการปี 73 พร้อมเล็งดึง ทอท.ร่วมลงทุน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2566 การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 1 (การปฐมนิเทศโครงการ) งานศึกษาความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ การเงิน และผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการทางพิเศษสายศรีนครินทร์ – ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลของโครงการ ความเป็นมาเหตุผลความจำเป็นของการพัฒนาโครงการ ตลอดจนแนวทางการศึกษาและขั้นตอนการศึกษาที่สำคัญรวมทั้งนำเสนอแนวเส้นทางของโครงการพร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากประชาชน ณ ห้องประชุม JW Convention Hall เขตสวนหลวงกรุงเทพมหานคร โดยมีนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการกทพ. เป็นประธานในพิธีเปิด
นายสุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า หลังจากดำเนินการจัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนแล้วเสร็จทั้งหมด 5 ครั้งก็จะดำเนินการศึกษาออกแบบโครงการ คาดว่าจะใช้ระยะเวลา 1 ปี หรือแล้วเสร็จประมาณเดือนกันยายน 2567 หลังจากนั้นก็จะดำเนินการศึกษาและประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ควบคู่กับดำเนินการขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งคาดว่าจะเสนอขออนุมัติครม.ได้ในปี 2568 หลังจากนั้นก็จะดำเนินการประกวดราคาในปี 2569 และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในปี 2570 ใช้ระยะเวลาดำเนินการก่อสร้าง 3 ปี เปิดให้บริการในปี 2573
อย่างไรก็ตามการดำเนินการลงทุนโครงการทางพิเศษสายศรีนครินทร์ – ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะสามารถเริ่มการศึกษาออกแบบได้ทางกทพ. จะต้องเจรจากับทางสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ก่อน เนื่องจากทาง สจล.มีความกังวลเรื่องทัศนียภาพ และการขึ้นลงทางพิเศษจะส่งผลกระทบทำให้การจราจรติดขัด เนื่องจากทางขึ้นลงอยู่ในบริเวณพื้นที่ชุมชนลาดกระบัง ซึ่งปัญหาเรื่องนี้ต้องได้ข้อสรุปก่อนกทพ. ถึงจะดำเนินการศึกษาออกแบบ
นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า โครงการทางพิเศษสายศรีนครินทร์ – ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เดิมทีเป็นโครงการอยู่ภายใต้การดำเนินงานของ ทล. และได้มีการโอนให้ กทพ. เป็นผู้ดำเนินโครงการเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2565 โดยจากที่ทล. เคยดำเนินการศึกษาในเบื้องต้นมีกรอบวงเงินลงทุน 29,500 ล้านบาท โครงการมีระยะทาง 18 กม. โดยการดำเนินการศึกษาของ กทพ. จะพยายามออกแบบให้มีกรอบวงเงินลงทุนลดลงจากที่กรมทางหลวงศึกษาไว้ ส่วนรูปแบบการลงทุนนั้นต้องดำเนินการศึกษาออกแบบให้แล้วเสร็จก่อนถึงจะบอกได้ว่าจะเป็นรูปแบบใดระหว่างการลงทุนเอง หรือเปิดโอกาสให้เอกชนมาร่วมลงทุน
ทั้งนี้โครงการทางพิเศษสายศรีนครินทร์ – ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หากดำเนินการแล้วเสร็จ จะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาจราจรติดขัดช่วงจุดตัดศรีนครินทร์-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วน และบรรเทาปัญหาการจราจร บนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 รวมทั้งเป็นการเพิ่มศักยภาพด้านการคมนาคมในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลให้เกิดความสะดวกและปลอดภัยต่อผู้เดินทางยิ่งขึ้น
“การทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้กำหนดแนวทางการดำเนินงาน เพื่อให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด อาทิ การกำหนดขอบเขตพื้นที่ก่อสร้างอย่างชัดเจน การกำหนดระยะเวลาก่อสร้างที่แน่นอน ไม่ยืดเยื้อ การกำหนดมาตรการป้องกันผลกระทบด้านฝุ่น เสียง แรงสั่นสะเทือน เป็นต้น” นายสุรเชษฐ์ กล่าว
แหล่งข่าวจากกทพ. ระบุว่า การดำเนินโครงการทางพิเศษสายศรีนครินทร์ – ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นั้น โดยส่วนตัวมองว่า บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT มีศัยกภาพที่ดีและเหมาะมากกับการเป็นผู้ร่วมลงทุน โดยทางผู้ว่าการ กทพ. มีแผนที่จะไปหารือกับนายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. ให้มาร่วมลงทุนในโครงการนี้ด้วย เพราะมองว่าเป็นประโยชน์กับทางทอท. มาก ทั้งในแง่ของปริมาณผู้ดดยสาร และการเดินทาง