ผู้ชมทั้งหมด 815
รฟฟท. จับมือกับ HO CHI MINH CITY URBAN RAILWAYS NO.1 พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการเดินรถไฟฟ้า ส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาระบบขนส่งทางราง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ณ นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง และ นาย Le Minh Triet ประธานคณะกรรมการและกรรมการ HO CHI MINH CITY URBAN RAILWAYS NO.1 COMPANY LIMITED ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง รฟฟท.กับ บริษัท Ho Chi Minh City Urban Railways No.1 จำกัด เพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในการแลกเปลี่ยนความรู้และทักษะต่างๆ เสริมสร้างศักยภาพในการบริหารจัดการเดินรถไฟฟ้า โดยมีคณะผู้บริหาร บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วม
โดย นายสุเทพ กล่าวว่า บันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าวถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญที่ทั้ง 2 หน่วยงาน ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการพัฒนาระบบขนส่งทางรางของทั้ง 2 ประเทศ รวมถึงแลกเปลี่ยนแนวคิดในด้านการเดินรถไฟฟ้า ด้านการสื่อสาร และการตลาด ด้านธุรกิจเชิงพาณิชย์ รวมถึงด้านความต้องการของผู้ใช้บริการ โดยบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้ และประสบการณ์ดำเนินงานในด้านต่างๆ จากประสบการณ์มากกว่า 14 ปี ที่บริษัทฯ ได้ดำเนินกิจการในฐานะผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้า เริ่มจากการบริหารโครงการระบบขนส่งมวลชนทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสถานีรับส่งผู้โดยสารท่าอากาศยานกรุงเทพมหานคร หรือ รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ จนมาถึงการบริหารการเดินรถโครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง
ทั้งนี้ในปัจจุบัน HO CHI MINH CITY URBAN RAILWAYS NO.1 (HURC1) อยู่ระหว่างการทดลองเดินรถไฟฟ้า ยังไม่เปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ บริษัทฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การลงนามดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ในการเดินรถไฟฟ้าในประเทศเวียดนาม และมีความพร้อมที่จะเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ในเดือนธ.ค.นี้ ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นบทบาทสำคัญในการพัฒนาระบบขนส่งรางทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม อันจะส่งผลให้ช่วยสร้างความสะดวกสบายให้กับประชาชน และเสริมสร้างศักยภาพการคมนาคมได้อย่างยั่งยืน
สำหรับ HO CHI MINH CITY URBAN RAILWAYS NO.1 มีระยะทางรวม 19.7 กิโลเมตร(กม.) มี14 สถานี แบ่งเป็น สถานีบนดิน 11 สถานี ระยะทาง 17.1 กม. และใต้ดิน 3 สถานี ระยะทาง 2.6 กม.ส่วนอัตราค่าโดยสารอยู่ระหว่างพิจารณาเสนอขออนุมัติ คาดว่าจะมีราคาเริ่มต้นที่ 15 บาท และสูงสุด 25 บาท
อย่างไรก็ตาม รฟฟท. ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรสู่การเป็นผู้นำในการให้บริการเดินรถไฟฟ้าด้วยมาตรฐานระดับสากล สร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ผู้ใช้บริการ รักษามาตรฐานการปฏิบัติงานในด้านการเดินรถและซ่อมบำรุง พัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพอยู่เสมอ รวมถึงรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจขององค์กร อีกทั้งสามารถเชื่อมโยงทุกการเดินทางกับระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย