น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ผู้ชมทั้งหมด 376 

กระทรวงพลังงาน” และ “กกพ.” ดำเนินโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗

วันนี้ (๒๔ ก.ค.) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) รวมทั้งคณะผู้บริหารระดับสูงส่วนราชการและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงพลังงาน ร่วมกันถวายราชสักการะแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมกับแถลงข่าว “กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗” ณ บ้านพิบูลธรรม กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กรุงเทพฯ

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมพรรษาครบ ๖ รอบ ๗๒ พรรษา ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ กระทรวงพลังงาน รัฐวิสาหกิจในสังกัด และ กกพ. น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยได้ดำเนินโครงการและกิจกรรมเพื่อสืบสานพระราชปณิธานของพระองค์ท่านในการจะ”สร้างประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป” ด้วยการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในหลากหลายด้าน ได้แก่

ด้านส่งเสริมสุขภาพประชาชน กกพ. ในฐานะหน่วยงานในกำกับฯ ได้จัดสรรงบประมาณจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้าติดตั้งผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับสถานพยาบาล ๗๓ แห่ง เพื่อลดค่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้าและนำงบประมาณที่เหลือใช้ไปดูแลประชาชนให้เข้าถึงการให้บริการทางการแพทย์และการสาธารณสุขที่มีคุณภาพได้อย่างทั่วถึงเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังเป็นการสนองพระบรมราโชบายที่ทรงต้องการสืบสาน ต่อยอดโครงการในพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ได้ทรงริเริ่มการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนมาใช้ประโยชน์อีกด้วย

ด้านส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ในส่วนของกระทรวงพลังงาน ทั้งจากสำนักงานปลัดกระทรวงพลังงาน กฟผ. และ ปตท. ได้เข้าร่วมโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อาทิ 10 โครงการสืบสานพระราชปณิธานองค์ราชัน ของ กฟผ. และกิจกรรมปลูกป่า จำนวน 72,000 ไร่ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวนำมาซึ่งอากาศสะอาดและความชุ่มชื้นให้กับประเทศอย่างกว้างขวาง

ด้านเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ ปตท. ได้การจัดทำหนังสือที่ระลึกเพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ซึ่งจะรวบรวมพระราชประวัติพระอัจฉริยภาพด้านต่างๆ ภาพถ่ายอันทรงคุณค่าจากพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระราชกรณียกิจการพัฒนาด้านพลังงาน พระราชดำรัสและพระบรมราโชวาทที่ทรงมีแก่ประชาชนชาวไทย รวมทั้งการดำเนินโครงการต่างๆ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลฯ ซึ่งจัดพิมพ์จำนวน 1,072 เล่มด้วย

นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน กล่าวว่า กกพ. และสำนักงาน กกพ. ได้สนับสนุนงบประมาณจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้า ตามมาตรา 97(4) ดำเนินโครงการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ 73 แห่ง เพื่อติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับโรงพยาบาลของรัฐ จำนวน ๗๓ แห่งในวงเงินงบประมาณ จำนวน ๔๕๗,๑๙๒,๕๐0 บาท มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม ๑๕,๕๙๗ กิโลวัตต์พีค

โดยมุ่งหวังลดค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคด้านไฟฟ้าและคาดว่าจะประหยัดค่าไฟฟ้าให้กับโรงพยาบาลของรัฐได้ถึง ๘๖,๒๑๓,๖๘๖ บาทต่อปี อีกทั้งโรงพยาบาลสามารถนำค่าใช้จ่ายที่ประหยัดได้ดังกล่าวไปสนับสนุนภารกิจในการดูแลประชาชนที่เข้ามารับบริการทางการแพทย์และการสาธารณสุขกับโรงพยาบาลให้ดียิ่งขึ้น การดำเนินโครงการดังกล่าวสามารถลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์รวม ๑๑,๘๗๒ ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี

“กกพ. และสำนักงาน กกพ. มีความมุ่งมั่นที่จะน้อมนำแนวทางพระราชดำริ พระราชปณิธาน และพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้อยู่ดีมีสุข โดยจัดสรรเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้า ตามมาตรา ๙๗ (๔) เพื่อติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับหน่วยงานของรัฐที่ให้บริการด้านสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง และจะขยายการสนับสนุนไปยังหน่วยงานของรัฐด้านการศึกษา และด้านการคุ้มครองทางสังคมและมีความมั่นคงให้กับประชาชน เช่น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข โรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการและโรงเรียนสังกัดตำรวจตระเวนชายแดน และหน่วยงานภายใต้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์” นายเสมอใจ กล่าว

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กระทรวงพลังงาน ร่วมกับ กฟผ. จัดทำโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จำนวน 10 โครงการ ภายใต้ชื่อ “10 โครงการสืบสานพระราชปณิธานองค์ราชัน” ประกอบด้วย

1) โครงการสนับสนุนการดำเนินงานโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช 21 แห่งทั่วประเทศ โดยล้างเครื่องปรับอากาศ ติดตั้งนวัตกรรมระบบหมุนเวียนและบำบัดอากาศ (City Tree) สร้างอากาศที่ดีให้ผู้ป่วย พร้อมสนับสนุนเลนส์ตาเทียมสำหรับผู้ป่วยและผู้สูงอายุ 2) โครงการติดตั้งระบบไฟฟ้าโซลาร์เซลล์เบอร์ 5 ในพื้นที่โครงการหลวง ได้แก่ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอ จังหวัดตาก ขนาด 16 กิโลวัตต์ และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรโครงการหลวง ชนกาธิเบศรดำริ จ.เชียงใหม่ ขนาด 72 กิโลวัตต์

3) โครงการติดตั้งระบบไฟฟ้าโซลาร์เซลล์เบอร์ 5 วัดมหาธาตุวชิรมงคล (วัดบางโทง) จ.กระบี่ ขนาด 72 กิโลวัตต์ 4) โครงการออกหน่วยให้บริการแว่นตาในพื้นที่เป้าหมาย 43 แห่ง รวมถึงมอบแว่นตาแก่ กลุ่มเปราะบาง จำนวนรวมทั้งสิ้น 72,000 แว่นตา 5) โครงการโคก หนอง นา ต่อยอด 72 แปลง ด้วยการสนับสนุนนวัตกรรมระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ 6) โครงการจัดตั้งห้องเรียนสีเขียว Smart Green Learning Room และปรับปรุงประสิทธิภาพพลังงาน ณ โรงเรียนมัธยมวชิราลงกรณวราราม จ.นครราชสีมา

7) โครงการสนับสนุนชุดนักเรียนเบอร์ 5 จำนวน 72,000 ชุด ในกลุ่มโรงเรียนในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร กลุ่มโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ทั่วประเทศ และกลุ่มโรงเรียนในโครงการกองทุนการศึกษา 8) โครงการสนับสนุนการดำเนินงานมูลนิธิกาญจนบารมี สนับสนุนรถตรวจคัดกรองมะเร็งนรีเวชพร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ จำนวน 1 คัน 9) โครงการสวนสุขภาพเฉลิมพระเกียรติ ในพื้นที่ 72 ไร่ ณ เขื่อนวชิราลงกรณ จ.กาญจนบุรีโดยปรับพื้นที่เพื่อสร้างสนามแข่งขันจักรยาน พื้นที่ทำกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ

10) โครงการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ณ เขื่อนวชิราลงกรณ จ.กาญจนบุรี ระหว่างวันที่  25 – 28 กรกฎาคม 2567คาดจะสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 2,800 ตันต่อปี ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าประมาณ 5.3 ล้านหน่วยต่อปี ลดค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าประมาณ 26.6 ล้านบาทต่อปี

นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปตท.ได้ดำเนินโครงการและกิจกรรมพิเศษเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ได้แก่

1) โครงการพัฒนาพื้นที่กำแพงเพชร 6 ขนานแนวโครงการพัฒนาคลองเปรมประชากรเฉลิมพระเกียรติที่ ปตท. จัดสรรพื้นที่ จำนวน 10 ไร่ ติดคลองเปรมประชากร เพื่อสร้างพื้นที่สีเขียวและอาคารนิทรรศการ รวมถึงท่าเรือและพื้นที่สาธารประโยชน์ของชุมชน เพื่อสืบสาน และขยายผลต่อยอดพระบรมราโชบายในการพัฒนาแม่น้ำ ลำคลองและแหล่งน้ำต่างๆ

2) ผลิตและเผยแพร่ หนังสั้นเฉลิมพระเกียรติฯ 2 เรื่อง คือ เรื่องรูปวาดจากอนาคต และ เรื่องคาเฟ่ เพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจและผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินโครงการด้านการพัฒนาแหล่งน้ำทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตประชาชน ตามพระบรมราโชบาย จำนวน 10 โครงการทั่วประเทศ เผยแพร่ตั้งแต่วันนี้ถึง 3 สิงหาคม 2567 ทางโทรทัศน์และสื่อออนไลน์

3) กิจกรรมแสดง แสง สี เสียง เฉลิมพระเกียรติ “ลำนำนที วารีสมโภช” ณ สวนสันติชัยปราการ (ป้อมพระสุเมรุ) เพื่อให้ประชาชนได้รับชมหนังสั้นเฉลิมพระเกียรติ พร้อมร่วมกิจกรรม อาทิ การแสดงแสง สี เสียงและ 3D Mapping ที่ป้อมพระสุเมรุ การละเล่นจากชุมชนบางลำพู ดนตรีในสวน กิจกรรม workshop ร้านค้าชุมชน และนิทรรศการโครงการตามพระบรมราโชบาย พระราชกรณียกิจและผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินโครงการด้านการพัฒนาแหล่งน้ำ รวมทั้งล่องเรือในเส้นทางสุดพิเศษจากป้อมพระสุเมรุไปยังป้อมมหากาฬ จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 26 – 28 กรกฎาคม 2567 เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป ณ บริเวณสวนสันติชัยปราการ ถนนพระอาทิตย์

4) กิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนอย่างยั่งยืน โดยพัฒนาการปลูกและการผลิตกาแฟระบบอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โครงการหลวงเลอตอ อ.แม่ระมาด จ.ตาก ซึ่ง ปตท. โออาร์ และโครงการหลวง ร่วมสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการสืบสาน รักษา ต่อยอดงานของมูลนิธิโครงการหลวงเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไทยภูเขา ลดการปลูกฝิ่น และฟื้นฟูป่าต้นน้ำลำธาร 

5) กิจกรรมปลูกป่า จำนวน 72,000 ไร่ เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครอบคลุมพื้นที่ป่าทั่วประเทศ เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศ แหล่งต้นน้ำ ส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพ เพิ่มแหล่งดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ด้วยวิธีทางธรรมชาติ และลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ คาดว่าจะสามารถช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ 68,400 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี

โครงการและกิจกรรมพิเศษที่ กลุ่ม ปตท. ร่วมดำเนินการในครั้งนี้ เป็นการเผยแพร่พระราชกรณียกิจและโครงการตามพระบรมราโชบายของของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณีย เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน และสร้างคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดียิ่งขึ้น

นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงานมีความยินดีและพร้อมสนับสนุนโครงการเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ผ่านกิจกรรมต่างๆ มากมาย ทั้งนี้ ในส่วนของกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ก็มีโครงการประกวดนวัตกรรมด้านพลังงานและพลังงานทดแทนภาคประชาชน เพื่อพัฒนานักออกแบบนวัตกรรมด้านพลังงานภาคประชาชน พัฒนานวัตกรรมด้านพลังงานที่ใช้งานได้จริง และเชิดชูประชาชนผู้มีแนวคิดสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านพลังงานที่เป็นการช่วยเหลือและสร้างประโยชน์ต่อสังคม

นอกจากนั้นจะลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือทางวิชาการและเชิงพาณิชย์ เพื่อการต่อยอดและขยายผลอย่างยั่งยืน ระหว่างเดือนกรกฎาคม – ธันวาคม 2567 คาดว่าผลลัพธ์จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนานวัตกรรมด้านพลังงานของไทยอย่างยั่งยืน นอกจากนั้น กระทรวงพลังงาน ร่วมกับ กฟผ. อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลพระราชกรณียกิจด้านพลังงานและคัดสรรภาพประกอบเพื่อนำมาจัดพิมพ์เป็นหนังสือ เชื่อว่าจะเป็นหนังสือที่ทรงคุณค่า และสมพระเกียรติ

“จะเห็นได้ว่า การดำเนินโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ของกระทรวงพลังงานมีครบทั้งมิติด้านพลังงาน มิติด้านสังคม และมิติด้านสิ่งแวดล้อม และกิจกรรมไม่ได้จัดแค่ช่วงเดือนกรกฎาคมเท่านั้น จะมีการจัดกิจกรรมไปตลอดจนถึงสิ้นปี 2567 ประชาชนสามารถติดตามโครงการต่างๆ ผ่านทั้งหน้าเว็บไซต์ และ Facebook ของหน่วยงานต่างๆ สุดท้ายนี้ ดิฉันก็ขอขอบคุณอีกครั้ง ทั้งข้าราชการ เจ้าหน้าที่ทุกระดับ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ช่วยกันผลักดันโครงการดีๆ ให้เกิดขึ้น ทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์ในโอกาสมหามงคลในครั้งนี้” นางสาวนันธิกา กล่าว