กลุ่ม ปตท. ผนึก CEA หนุนใช้เทคโนโลยีพัฒนาซอฟท์พาวเวอร์ไทย

ผู้ชมทั้งหมด 805 

กลุ่ม ปตท. ผนึก สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม หนุน Soft Power ไทย ยกระดับอุตสาหกรรมคอนเทนต์ให้โดดเด่น พร้อมส่งออกสู่เวทีสากล

หม่อมหลวงชโยทิต กฤดากร ผู้แทนการค้าไทย ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และกรรมการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือพัฒนาซอฟท์พาวเวอร์ไทยด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ระหว่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA โดยมี นายนพดล ปิ่นสุภา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน ปตท.  ดร. บุรณิน  รัตนสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและธุรกิจใหม่ ปตท. ดร. ชาคริต  พิชญางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และ นายพิชิต วีรังคบุตร รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ร่วมลงนาม ณ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่ 18 ส.ค.2565

นายนพดล  ปิ่นสุภา  ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า ความร่วมมือครั้งนี้ ปตท. ได้ร่วมกับ บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด (ARV) นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยยกระดับการพัฒนาซอฟท์พาวเวอร์ (Soft Power) อาทิ Volumatic 360, Extended Reality (XR), Advanced Visual Effect (VFX), Drone และ Metaverse ผนวกกับประสบการณ์และองค์ความรู้ของ CEA มาร่วมส่งเสริมและยกระดับซอฟท์พาวเวอร์ (Soft Power)  ด้วยการพัฒนาอุตสาหกรรมคอนเทนต์ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล  ทั้งการพัฒนาทักษะบุคลากร การสนับสนุนด้านทรัพยากรและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศไทย

ทั้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ ของโลกที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ปตท. จึงมุ่งพัฒนา ต่อยอดธุรกิจด้วยการแสวงหานวัตกรรมเพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานแห่งอนาคต และรุกเข้าสู่ธุรกิจใหม่ที่ไกลกว่าพลังงาน ให้พร้อมรับการแข่งขันบนเวทีโลก ด้วยวิสัยทัศน์ “Powering Life with Future Energy and Beyond ขับเคลื่อนทุกชีวิต ด้วยพลังแห่งอนาคต”

โดย ปตท. ยังพร้อมสนับสนุนนโยบายภาครัฐในการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย หลังจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เกิดการแพร่ระบาดไปทั่วโลก ด้วยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยยกระดับการพัฒนาซอฟท์พาวเวอร์ (Soft Power) ของไทย ซึ่งเป็นจะกลไกสำคัญในการช่วยฟื้นฟูกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้กลับเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย รวมถึงเปิดโอกาสทางธุรกิจ ดึงดูดให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุน เพื่อขยายฐานอุตสาหกรรมเศรษฐกิจสร้างสรรค์หรือ Creative Economy ในประเทศไทยอีกด้วย

ดร. ชาคริต  พิชญางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ กล่าวว่า CEA ในฐานะองค์กรหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ มีแผนยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนซอฟท์พาวเวอร์ของประเทศไทย เพื่อยกระดับเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืนในระยะยาว ร่วมมือกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยใช้อุตสาหกรรมคอนเทนต์เป็นตัวนำ โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาทักษะศักยภาพของบุคลากรให้ได้มาตรฐานสากล  รองรับการผลิตสร้างสรรค์คอนเทนต์ไทยไปสู่ตลาดโลก ซึ่งจะนำไปสู่การยกระดับซอฟท์พาวเวอร์ของประเทศไทย

พร้อมสนับสนุนข้อมูลองค์ความรู้ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมและพัฒนาขีดความสามารถของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ การเชื่อมโยงเครือข่ายนักสร้างสรรค์ ยกระดับห่วงโซ่มูลค่าของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ผ่านงาน “เทศกาลงานออกแบบฯ” หรือที่เรียกว่า “Design Week” หรือ “Design Festival” ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ได้แก่ Chiang Mai Design Week, Bangkok Design Week และ Isan Creative Festival พร้อมทั้งมีโปรเจ็กต์ร่วมกับ ปตท.สร้างประสบการณ์ใหม่ให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงชิ้นงานศิลปะที่มีคุณค่า เช่น Virtual Reality, Augmented Reality และ Metaverse อีกทั้งการร่วมผลักดัน University Roadshow ร่วมกับเครือข่าย miniTCDC Link ของ CEA ที่มีมากกว่า 48  แห่งทั่วประเทศ ตลอดทั้งปี 2566 เพื่อให้นิสิต นักศึกษาได้ใช้ Design Thinking ทดลองนำเทคโนโลยีมาช่วยในการสร้างสรรค์ผลงานต้นแบบในการยกระดับพัฒนาซอฟท์พาวเวอร์ไทย

สำหรับกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือยกระดับซอฟท์พาวเวอร์นี้ ได้แก่ Content Lab โครงการส่งเสริมและพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากรในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์กลุ่มครีเอทีฟคอนเทนต์ เพื่อสร้างสรรค์คอนเทนต์คุณภาพสู่ระดับสากล ดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักลงทุนเข้ามาในประเทศไทย  Soft Power & Technology Roadshow เพื่อให้ประชาชนทั่วไป นิสิตนักศึกษา

รวมทั้ง เครือข่ายนักสร้างสรรค์เข้าถึงตัวอย่างการพัฒนาซอฟท์พาวเวอร์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง โดยความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นการยกระดับห่วงโซ่มูลค่าของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ให้ทัดเทียมสากล  และเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป