ผู้ชมทั้งหมด 358
เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ร่วมพิธีเปิดโครงการ “ภูเก็ต Sandbox ต้นแบบอนุรักษ์หาดไทย” ภายใต้โครงการรักษ์ 72 หาดไทย เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567” โดยมี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี ณ ลานโลมา หาดป่าตองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้รับความร่วมมือจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกัลฟ์ โดยมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างความตระหนักด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้กับประชาชน เพื่อนำไปสู่การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทางทะเลและชายฝั่งอย่างยั่งยืน และรณรงค์ ลด ละ เลิก การใช้บรรจุภัณฑ์ประเภทพลาสติกชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้ง ตลอดจนส่งเสริมการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลและชายฝั่ง
นายธนญ ตันติสุนทร Executive Officer บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ปัญหาขยะทางทะเลสร้างผลกระทบเป็นวงกว้างในหลายด้านไม่ว่าจะเป็น เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว สิ่งแวดล้อม และส่งผลคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน อีกทั้งยังเป็นต้นเหตุของการเกิดภาวะโลกร้อน ซึ่งกัลฟ์ให้ความสำคัญกับการจัดการขยะอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบในระยะยาว และเมื่อปี 2565 กัลฟ์ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการจัดการขยะทะเล นำร่อง 5 ปากแม่น้ำสายหลักที่ไหลลงสู่ทะเล จึงได้มีการลงพื้นที่สำรวจขยะคลองท่าจีน บริเวณเกาะสิเหร่ จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นบริเวณชุมชนที่มีปัญหาเรื่องขยะทับถมจำนวนมาก โดยกัลฟ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมนำความเชี่ยวชาญของแต่ละภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมาร่วมกันวางแผนและหาแนวทางจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อการแก้ปัญหาขยะในทะเลอย่างยั่งยืน”
โครงการรักษ์ 72 หาดไทย เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธี มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จะดำเนินการจัดการปัญหาขยะในพื้นที่ 72 ชายหาด 7 จังหวัด ได้แก่ จ.ตราด, จ.ระยอง, จ.ชลบุรี, จ.สุราษฎร์ธานี, จ.ตรัง, จ.กระบี่ และ จ.ภูเก็ต รวมไปถึงโครงการ ภูเก็ต Sandbox ต้นแบบอนุรักษ์หาดไทยฯ มีพื้นที่ดำเนินโครงการทั้งสิ้น 14 หาด ประกอบด้วย 1.หาดป่าตอง 2.หาดกะตะ 3.หาดสุรินทร์ 4.หาดยะนุ้ย 5.หาดกะตะน้อย 6.หาดกะรน 7.หาดฟรีด้อม 8.หาดพาราไดซ์ บีช 9.หาดในหาน 10.หาดราไวย์ 11.หาดแหลมกา 12.หาดลายัน 13.หาดบางเทา และ 14.หาดในยาง ซึ่งการดำเนินโครงการดังกล่าวจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ทางทะเลของประเทศไทย และโครงการฯ นี้ ยังมีส่วนช่วยส่งเสริมเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย ที่จะเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2050 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2065 อีกด้วย